ชัยนาท - สลด! แม่จำใจขังลูก 10 ขวบป่วยออทิสติกไว้ใต้ถุนบ้านที่สูงเพียง 1 เมตร ช่วงที่ตัวเองต้องออกไปรับจ้างทำงานนอกบ้าน แม่เผยเหตุเพราะลูกชอบเดินออกจากบ้านหายไป เคยตกน้ำ ถูกรถชนมาแล้ว และกลัวลูกมีอันตรายจึงต้องขังไว้เพื่อความปลอดภัย
เมื่อวันที่ 5 มี.ค.58 ที่ผ่านมา สมาคมนักข่าวจังหวัดชัยนาท ได้ทำกิจกรรมวันนักข่าว โดยเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 169 ม.13 ต.ดงคอน อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท เพื่อนำเงิน และข้าวสารอาหารแห้งไปมอบให้แก่ นางเฉลา ยิ้มจันทร์ อายุ 48 ปี อาชีพรับจ้าง มีฐานะยากจน และต้องเลี้ยงลูกชายวัย 10 ขวบ เพียงลำพังที่ป่วยเป็นออทิสติก ทำให้ได้ทราบเรื่องราวที่น่าสลดใจจากนางเฉลา เกี่ยวกับการที่ต้องขังลูกชายที่ป่วยเป็นออทิสติกไว้ใต้ถุนบ้านที่สูงเพียง 1 เมตร ในช่วงที่ตนต้องออกไปรับจ้างทำงานนอกบ้าน เพราะลูกชอบเดินออกไปจากบ้าน และหายไป บางครั้งก็ไปตกน้ำ และเคยถูกรถชน 2 ครั้ง กลัวลูกมีอันตราย จึงจำใจต้องขังไว้เพื่อความปลอดภัย
นางเฉลา ยิ้มจันทร์ กล่าวว่า ตนไม่ได้เรียนหนังสือมีอาชีพรับจ้างตัดอ้อย และรับจ้างทั่วไปรายได้วันละ 100 กว่าบาท ต้องเลี้ยงดูลูกชายอายุ 10 ขวบเพียงลำพัง ชื่อ ด.ช.ธีรภัทร พันธ์ผง หรือ "น้องเจมส์" ซึ่งป่วยเป็นออทิสติก และเป็นโรคลมชักมาตั้งแต่อายุได้ 8 เดือน ต้องพาไปรักษาตัวที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรุงเทพฯ
แต่เพราะความยากจนและมีรายได้ไม่แน่นอน จึงไม่มีเงินเป็นค่าเดินทางพา น้องเจมส์ ไปรักษาให้ต่อเนื่อง โดยทุกวันเวลาที่ตนต้องออกไปรับจ้างทำงานนอกบ้านก็ต้องเอา น้องเจมส์ ไปขังไว้ใต้ถุนบ้าน หากไม่ขังไว้ น้องเจมส์ ก็จะเดินออกไปนอกบ้าน และหายไปไม่สามารถกลับบ้านเองได้ และที่ผ่านมา น้องเจมส์ เคยเดินออกจากบ้านไปแล้วก็ไปตกน้ำบ้าง ไปถูกรถเฉี่ยวชนบ้าง ตนกลัวว่า น้องเจมส์ จะได้รับอันตราย จึงจำใจต้องเอา น้องเจมส์ ขังไว้
แต่ตอนกลางวันก็จะกลับมาบ้านมาหาข้าวให้ น้องเจมส์ กิน จากนั้นก็จะออกไปทำงานต่อ เป็นอย่างนี้มา 5-6 ปีแล้ว ไม่รู้จะทำอย่างไร ส่วนอาการป่วยของ น้องเจมส์ ตอนนี้ก็มักมีอาการชักเป็นประจำ โดยเฉพาะช่วงกลางคืน ตนอยากจะพาไปรักษาให้ต่อเนื่อง แต่ก็ไม่มีค่าเดินทาง เพราะค่าใช้จ่ายที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ แต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 600 บาท
ทั้งนี้ สภาพบ้านดังกล่าวเป็นบ้านมุงสังกะสีชั้นเดียว ยกใต้ถุงสูงประมาณ 1 เมตร สภาพเก่าผุพัง ส่วนบริเวณใต้ถุนบ้านที่ขังน้องเจมส์ เป็นพื้นดิน รอบใต้ถุนมีการนำไม้มาตีปิดไว้ มีประตูทางเข้าออก เวลาที่นางเฉลา จะออกไปทำงานก็จะให้ น้องเจมส์ เข้าไปอยู่ใต้ถุนแล้วก็ล็อกประตูไว้
แต่ถ้าไม่ได้ออกไปทำงานก็จะปล่อยให้ น้องเจมส์ อยู่ในบริเวณบ้าน แต่จะต้องล็อกประตูหน้าบ้านไว้ เพราะหากคลาดสายตา น้องเจมส์ ก็จะชอบเดินออกนอกบ้านทันที
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือแล้ว แต่นางเฉลา และน้องเจมส์ ก็ยังมีความลำบาก และยังต้องการความช่วยเหลือ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการเดินทางพาน้องเจมส์ ไปรักษาที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรุงเทพฯ เพราะหากจะให้การรักษาเป็นไปอย่างต่อเนื่องจะต้องเดินทางไปพบหมอทุกเดือน เดือนละ 2 ครั้ง
โดยท่านใดที่มีความประสงค์จะให้ความช่วยเหลือ สามารถโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารออมสิน สาขาสรรคบุรี ชื่อบัญชี “นางเฉลา ยิ้มจันทร์ เพื่อ ด.ช.ธีรภัทร พันธ์ผง” เลขที่บัญชี 052150579697
เมื่อวันที่ 5 มี.ค.58 ที่ผ่านมา สมาคมนักข่าวจังหวัดชัยนาท ได้ทำกิจกรรมวันนักข่าว โดยเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 169 ม.13 ต.ดงคอน อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท เพื่อนำเงิน และข้าวสารอาหารแห้งไปมอบให้แก่ นางเฉลา ยิ้มจันทร์ อายุ 48 ปี อาชีพรับจ้าง มีฐานะยากจน และต้องเลี้ยงลูกชายวัย 10 ขวบ เพียงลำพังที่ป่วยเป็นออทิสติก ทำให้ได้ทราบเรื่องราวที่น่าสลดใจจากนางเฉลา เกี่ยวกับการที่ต้องขังลูกชายที่ป่วยเป็นออทิสติกไว้ใต้ถุนบ้านที่สูงเพียง 1 เมตร ในช่วงที่ตนต้องออกไปรับจ้างทำงานนอกบ้าน เพราะลูกชอบเดินออกไปจากบ้าน และหายไป บางครั้งก็ไปตกน้ำ และเคยถูกรถชน 2 ครั้ง กลัวลูกมีอันตราย จึงจำใจต้องขังไว้เพื่อความปลอดภัย
นางเฉลา ยิ้มจันทร์ กล่าวว่า ตนไม่ได้เรียนหนังสือมีอาชีพรับจ้างตัดอ้อย และรับจ้างทั่วไปรายได้วันละ 100 กว่าบาท ต้องเลี้ยงดูลูกชายอายุ 10 ขวบเพียงลำพัง ชื่อ ด.ช.ธีรภัทร พันธ์ผง หรือ "น้องเจมส์" ซึ่งป่วยเป็นออทิสติก และเป็นโรคลมชักมาตั้งแต่อายุได้ 8 เดือน ต้องพาไปรักษาตัวที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรุงเทพฯ
แต่เพราะความยากจนและมีรายได้ไม่แน่นอน จึงไม่มีเงินเป็นค่าเดินทางพา น้องเจมส์ ไปรักษาให้ต่อเนื่อง โดยทุกวันเวลาที่ตนต้องออกไปรับจ้างทำงานนอกบ้านก็ต้องเอา น้องเจมส์ ไปขังไว้ใต้ถุนบ้าน หากไม่ขังไว้ น้องเจมส์ ก็จะเดินออกไปนอกบ้าน และหายไปไม่สามารถกลับบ้านเองได้ และที่ผ่านมา น้องเจมส์ เคยเดินออกจากบ้านไปแล้วก็ไปตกน้ำบ้าง ไปถูกรถเฉี่ยวชนบ้าง ตนกลัวว่า น้องเจมส์ จะได้รับอันตราย จึงจำใจต้องเอา น้องเจมส์ ขังไว้
แต่ตอนกลางวันก็จะกลับมาบ้านมาหาข้าวให้ น้องเจมส์ กิน จากนั้นก็จะออกไปทำงานต่อ เป็นอย่างนี้มา 5-6 ปีแล้ว ไม่รู้จะทำอย่างไร ส่วนอาการป่วยของ น้องเจมส์ ตอนนี้ก็มักมีอาการชักเป็นประจำ โดยเฉพาะช่วงกลางคืน ตนอยากจะพาไปรักษาให้ต่อเนื่อง แต่ก็ไม่มีค่าเดินทาง เพราะค่าใช้จ่ายที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ แต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 600 บาท
ทั้งนี้ สภาพบ้านดังกล่าวเป็นบ้านมุงสังกะสีชั้นเดียว ยกใต้ถุงสูงประมาณ 1 เมตร สภาพเก่าผุพัง ส่วนบริเวณใต้ถุนบ้านที่ขังน้องเจมส์ เป็นพื้นดิน รอบใต้ถุนมีการนำไม้มาตีปิดไว้ มีประตูทางเข้าออก เวลาที่นางเฉลา จะออกไปทำงานก็จะให้ น้องเจมส์ เข้าไปอยู่ใต้ถุนแล้วก็ล็อกประตูไว้
แต่ถ้าไม่ได้ออกไปทำงานก็จะปล่อยให้ น้องเจมส์ อยู่ในบริเวณบ้าน แต่จะต้องล็อกประตูหน้าบ้านไว้ เพราะหากคลาดสายตา น้องเจมส์ ก็จะชอบเดินออกนอกบ้านทันที
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือแล้ว แต่นางเฉลา และน้องเจมส์ ก็ยังมีความลำบาก และยังต้องการความช่วยเหลือ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการเดินทางพาน้องเจมส์ ไปรักษาที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรุงเทพฯ เพราะหากจะให้การรักษาเป็นไปอย่างต่อเนื่องจะต้องเดินทางไปพบหมอทุกเดือน เดือนละ 2 ครั้ง
โดยท่านใดที่มีความประสงค์จะให้ความช่วยเหลือ สามารถโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารออมสิน สาขาสรรคบุรี ชื่อบัญชี “นางเฉลา ยิ้มจันทร์ เพื่อ ด.ช.ธีรภัทร พันธ์ผง” เลขที่บัญชี 052150579697
