บุรีรัมย์ - สุดแปลก ยายวัย 72 ปีชาวบุรีรัมย์จัดงานคล้ายวันเกิดและงานศพของตัวเองในวันเดียวกันที่วัด พร้อมเชิญแขก นิมนต์พระ ทำพิธีทางศาสนาเหมือนงานศพจริงทุกประการ และมีแขกมาร่วมงานนับ 1,000 คน เจ้าตัวเผยอยากเห็นงานศพของตัวเองที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน ถือเป็นการทำบุญแบบทันตาเห็นด้วยมือของตัวเอง เผยมอบทุนวัดละหมื่นบาท 43 วัด พร้อมจัดเลี้ยงอาหารเพียบ
วันนี้ (5 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการจัดงานแปลกประหลาดขึ้นที่วัดไตรภูมิ ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยขึ้นป้ายขนาดใหญ่ไว้ภายในศาลาวัดระบุข้อความว่า “สุขสันต์วันเกิด 4 มีนาคม 2558 คุณประภาพร เฮียบสุวรรณ และทำบุญทันตาเห็น ด้วยมือของตัวเอง” ซึ่งแขกที่มาร่วมงานบางคนไม่รู้ว่าเป็นงานอะไรกันแน่ เพราะวันที่ 4 มีนาคมเป็นวันคล้ายวันเกิดของ นางประภาพร เฮียบสุวรรณ อายุ 72 ปี และปีนี้เจ้าภาพได้จัดงานเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งงาน คือ พิธีฌาปนกิจศพของ นางประภาพร เฮียบสุวรรณ เช่นกัน จนสร้างกระแสฮือฮาเล่าขานกันไปทั่ว
ทั้งนี้ ภายในศาลาวัดไตรภูมิที่มีการจัดงานดังกล่าวได้มีแขกมาฟังการสวดพระอภิธรรมเป็นจำนวนมากนับ 1,000 คน ส่วนใหญ่สวมใส่ชุดขาว และมีการนิมนต์พระมากกว่า 100 รูป โดยมีโลงศพ ซึ่งเป็นโลงเปล่าพร้อมภาพถ่ายของนางประภาพรตั้งอยู่กลางศาลาวัด เสมือนเป็นการจัดงานศพจริงทุกประการ ส่วนบริเวณด้านนอกศาลาก็มีอาหารคาวหวานให้แขกที่มาร่วมงานได้รับประทานจำนวนมากเพราะเป็นการจัดงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดครบ 72 ปีด้วย
ทั้งนี้ หลังจากผ่านพิธีทางศาสนาบนศาลาวัดแล้วชาวบ้านได้แบกโลงศพ โดยมี นางประภาพรนั่งมาในโลง และมีญาติถือภาพถ่ายที่ตั้งหน้าโลงศพ เดินรอบเมรุ 3 รอบ ก่อนนำโลงศพขึ้นไว้บนเมรุ แล้วทำพิธีทอดผ้าบังสุกุล พร้อมมอบทุนถวายวัดต่างๆ วัดละ 10,000 บาท จำนวน 43 วัด และมีการรำหน้าศพเหมือนงานศพทั่วไปทุกประการ จนกระทั่งเสร็จพิธีในเวลา 16.00 น.
นางประภาพรบอกว่า สาเหตุที่จัดงานในลักษณะนี้ขึ้นเพราะตนได้ศึกษาพระธรรมมามาก คนที่ตายไปแล้วไม่เคยได้เห็นงานศพของตัวเอง ไม่รู้ว่าใครมางานเราบ้าง และอยากให้คนรับรู้ว่าคนเราจะตายวันไหนไม่รู้ แต่ไม่ค่อยมีคนทำบุญ จึงเป็นที่มาของการจัดงานนี้ขึ้น ซึ่งได้ปรึกษาพระผู้ใหญ่หลายรูปถึงความถูกต้องและสมควรแค่ไหน โดยเฉพาะวันเกิดปีนี้ตรงกับวันมาฆบูชา วันสำคัญทางศาสนาของไทย ซึ่งปรากฏว่าพระผู้ใหญ่ระบุว่าไม่ถือว่าผิดจึงจัดขึ้น เพราะอยากอุทิศส่วนกุศลให้ตัวเอง และอยากให้ญาติและคนอื่นที่มาร่วมงานได้ปลงกับสิ่งลวงตาในโลกปัจจุบัน ซึ่งสุดท้ายเมื่อตายแล้วไม่มีใครเอาอะไรไปได้
“ฉันเป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราช มาอาศัยอยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ตั้งแต่ปี 2524 ไม่มีบุตร เมื่ออายุล่วงเลยมาถึง 72 ปี จึงอยากจะทำบุญให้มาก และอยากให้ทุกคนรับทราบว่าการทำบุญ หรือการตอบแทนบุญคุณคนไม่ควรรอไว้จนถึงชาติหน้า” นางประภาพรกล่าวในตอนท้าย
วันนี้ (5 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการจัดงานแปลกประหลาดขึ้นที่วัดไตรภูมิ ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยขึ้นป้ายขนาดใหญ่ไว้ภายในศาลาวัดระบุข้อความว่า “สุขสันต์วันเกิด 4 มีนาคม 2558 คุณประภาพร เฮียบสุวรรณ และทำบุญทันตาเห็น ด้วยมือของตัวเอง” ซึ่งแขกที่มาร่วมงานบางคนไม่รู้ว่าเป็นงานอะไรกันแน่ เพราะวันที่ 4 มีนาคมเป็นวันคล้ายวันเกิดของ นางประภาพร เฮียบสุวรรณ อายุ 72 ปี และปีนี้เจ้าภาพได้จัดงานเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งงาน คือ พิธีฌาปนกิจศพของ นางประภาพร เฮียบสุวรรณ เช่นกัน จนสร้างกระแสฮือฮาเล่าขานกันไปทั่ว
ทั้งนี้ ภายในศาลาวัดไตรภูมิที่มีการจัดงานดังกล่าวได้มีแขกมาฟังการสวดพระอภิธรรมเป็นจำนวนมากนับ 1,000 คน ส่วนใหญ่สวมใส่ชุดขาว และมีการนิมนต์พระมากกว่า 100 รูป โดยมีโลงศพ ซึ่งเป็นโลงเปล่าพร้อมภาพถ่ายของนางประภาพรตั้งอยู่กลางศาลาวัด เสมือนเป็นการจัดงานศพจริงทุกประการ ส่วนบริเวณด้านนอกศาลาก็มีอาหารคาวหวานให้แขกที่มาร่วมงานได้รับประทานจำนวนมากเพราะเป็นการจัดงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดครบ 72 ปีด้วย
ทั้งนี้ หลังจากผ่านพิธีทางศาสนาบนศาลาวัดแล้วชาวบ้านได้แบกโลงศพ โดยมี นางประภาพรนั่งมาในโลง และมีญาติถือภาพถ่ายที่ตั้งหน้าโลงศพ เดินรอบเมรุ 3 รอบ ก่อนนำโลงศพขึ้นไว้บนเมรุ แล้วทำพิธีทอดผ้าบังสุกุล พร้อมมอบทุนถวายวัดต่างๆ วัดละ 10,000 บาท จำนวน 43 วัด และมีการรำหน้าศพเหมือนงานศพทั่วไปทุกประการ จนกระทั่งเสร็จพิธีในเวลา 16.00 น.
นางประภาพรบอกว่า สาเหตุที่จัดงานในลักษณะนี้ขึ้นเพราะตนได้ศึกษาพระธรรมมามาก คนที่ตายไปแล้วไม่เคยได้เห็นงานศพของตัวเอง ไม่รู้ว่าใครมางานเราบ้าง และอยากให้คนรับรู้ว่าคนเราจะตายวันไหนไม่รู้ แต่ไม่ค่อยมีคนทำบุญ จึงเป็นที่มาของการจัดงานนี้ขึ้น ซึ่งได้ปรึกษาพระผู้ใหญ่หลายรูปถึงความถูกต้องและสมควรแค่ไหน โดยเฉพาะวันเกิดปีนี้ตรงกับวันมาฆบูชา วันสำคัญทางศาสนาของไทย ซึ่งปรากฏว่าพระผู้ใหญ่ระบุว่าไม่ถือว่าผิดจึงจัดขึ้น เพราะอยากอุทิศส่วนกุศลให้ตัวเอง และอยากให้ญาติและคนอื่นที่มาร่วมงานได้ปลงกับสิ่งลวงตาในโลกปัจจุบัน ซึ่งสุดท้ายเมื่อตายแล้วไม่มีใครเอาอะไรไปได้
“ฉันเป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราช มาอาศัยอยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ตั้งแต่ปี 2524 ไม่มีบุตร เมื่ออายุล่วงเลยมาถึง 72 ปี จึงอยากจะทำบุญให้มาก และอยากให้ทุกคนรับทราบว่าการทำบุญ หรือการตอบแทนบุญคุณคนไม่ควรรอไว้จนถึงชาติหน้า” นางประภาพรกล่าวในตอนท้าย