ชัยนาท - สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชัยนาท ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลท่าฉนวน เชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมงานประเพณีห่มพระธาตุตักบาตรดอกไม้ เป็นพุทธบูชาวันมาฆบูชา ในวันที่ 4 มี.ค.นี้ ที่วัดหัวยาง ตำบลท่าฉนวน อำเภอมโนรมย์
วันนี้ (3 มี.ค.) สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชัยนาท ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลท่าฉนวน และชาวบ้านชุมชนบ้านหัวยาง ตำบลท่าฉนวน อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท ขอเชิญพุทธศาสนิกชนร่วมงานบุญประเพณีห่มผ้าพระธาตุ ตักบาตรดอกไม้ เนื่องในวันมาฆบูชา เพื่อสืบสานประเพณีถวายเป็นพุทธบูชา และเป็นมงคลแก่ชีวิต ณ วัดหัวยาง ตำบลท่าฉนวน อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท ในวันที่ 4 มีนาคม 2558 ตั้งแต่เวลา 08.00 น.เป็นต้นไป
สำหรับกิจกรรมในงานประกอบด้วย พิธีการตักบาตรดอกไม้แด่พระสงฆ์ 49 รูป พิธีเวียนเทียนมาลัยสาย พิธีแห่ผ้าพระธาตุ และอัญเชิญผ้าขึ้นห่มองค์พระธาตุ นอกจากนี้ ยังมีการจัดนิทรรศการจัดแสดงโต๊ะหมู่บูชา การตักบาตรพระประจำวันด้วยดอกดาวเรือง การตักบาตรน้ำผึ้งถวายพระสีวลี ชมการบรรยายธรรม และการสาธิตสวดมนต์หมู่ทำนองสรภัญญะ
โดยงานประเพณีห่มผ้าพระธาตุ ตักบาตรดอกไม้ เนื่องในวันมาฆบูชา เป็นงานประเพณีที่ชาวบ้านชุมชนบ้านหัวยาง ตำบลท่าฉนวน อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยเกิดขึ้นจากความร่วมแรงร่วมใจของคนในชุมชนที่ได้นำดอกไม้ต่างๆ เช่น ดอกดาวเรือง ดอกมะลิ ดอกกุหลาบ ซึ่งชาวบ้านปลูกไว้จำหน่ายนำไปบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ที่บรรจุในองค์พระธาตุเจดีย์ ณ วัดหัวยาง ตามความเชื่อสมัยพุทธกาลว่า การบูชาพุทธองค์ด้วยดอกไม้จะทำให้เกิดความสุขความเจริญแก่ชีวิต
ดังนั้น เพื่อเป็นการจรรโลงพระพุทธศาสนา และให้ประเพณีตักบาตรดอกไม้สืบทอดต่อไปตราบลูกหลาน ในวันมาฆบูชาปีนี้ ชาวชุมชนบ้านหัวยาง จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมงานประเพณีห่มผ้าพระธาตุ และตักบาตรดอกไม้ โดยดอกไม้ที่ได้รับการตักบาตร ทางวัดจะนำไปก่อเป็นพระเจดีย์ดอกไม้บูชาองค์พระธาตุทั้ง 4 ทิศ รอบองค์พระบรมสารีริกธาตุ ดังนั้น คนที่มาร่วมทำบุญตักบาตรดอกไม้เท่ากับได้เป็นผู้ร่วมก่อเจดีย์ดอกไม้บูชาองค์พระบรมสารีริกธาตุด้วย
ทั้งนี้ ประเพณีห่มผ้าพระธาตุในงานนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ เป็นความเชื่อที่สืบเนื่องมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาล ซึ่งปรากฏความว่า คราวหนึ่งหลังสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสรู้ได้ 3 พรรษา เกิดความเดือดร้อนวุ่นวายแก่ชาวเมืองเวสาลี ผู้คนเกิดภัยพิบัตินานาประการ เกิดโจรผู้ร้ายเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ ไม่เว้นแม้แต่สมณพราหมณ์ผู้ทรงศีล ทำให้ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก
เมื่อพระพุทธองค์เสด็จไปเท่านั้นความทุกข์ความเดือดร้อนวุ่นวายก็พลันหายไปสิ้นเป็นที่อัศจรรย์ พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า ที่เป็นเช่นนี้มิใช่ความอัศจรรย์ แต่เป็นเพราะอานุภาพแห่งบุญบารมีที่พระองค์เคยเอาผ้าประดับบูชาเจดีย์ในอดีตชาติ
ส่วนประเพณีตักบาตรดอกไม้ ตามความเชื่อของชาวพุทธ การตักบาตรดอกไม้เป็นการสร้างอานิสงส์ที่สูงส่งอย่างยิ่ง โดยปรากฏตามพุทธตำนานว่า พระเจ้าพิมพิสาร กษัตริย์กรุงราชคฤห์ ทรงโปรดปรานดอกมะลิมาก ในแต่ละวันจะรับสั่งให้นายมาลาการ นำดอกมะลิมาถวายวันละ 8 กำมือ วันหนึ่งขณะที่นายมาลาการ กำลังเก็บดอกมะลิ ได้พบเห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์อีกจำนวนหนึ่งเสด็จออกบิณฑบาต นายมาลาการ สังเกตเห็นฉัพพรรณรังสีฉายประกายรอบพระวรกาย ทำให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธาพระพุทธองค์อย่างยิ่ง นายมาลาการ ตัดสินใจนำดอกมะลิถวายแด่พระพุทธเจ้า
พร้อมกันนั้น ได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า ข้าวของทุกสิ่งที่พระเจ้าพิมพิสารทรงมอบให้เพียงยังชีพในภพนี้เท่านั้น แต่การนำดอกไม้ถวายบูชาแด่พระพุทธองค์สร้างอานิสงส์ได้ทั้งภพนี้ และภพหน้า หากถูกประหารชีวิตเพราะไม่ได้ถวายดอกมะลิก็ยินยอม แต่หลังจากที่พระเจ้าพิมพิสาร ทรงทราบ กลับพอพระราชหฤทัยเป็นอันมาก และได้ปูนบำเหน็จรางวัล นับแต่นั้นมาชีวิตนายมาลาการ ก็อยู่เย็นเป็นสุขตลอดมา