ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “ม.ล.ปนัดดา” ปาฐกถาพิเศษ “20 ปี อบต.กับการพัฒนาท้องถิ่น ก้าวต่อไปอย่างไรให้มั่นคง” ตั้งความหวังไว้สูงอยาก พลิกโฉม อบต.ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ ชงเปิดศูนย์บริการประชาชนส่วนท้องถิ่น ด้านข้าราชการท้องถิ่นร้อนตัวลุกโต้ “ไม่อยากให้มองท้องถิ่นทุจริต” อ้างระเบียบเยอะ เงินน้อย
วันนี้ (2 มี.ค.) ที่ห้องประชุมมงกุฎเพชร โรงแรมโฆษะ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานและปาฐกถาพิเศษเปิดโครงการประชุมสัมมนาทางวิชาการ เรื่อง 2 ทศวรรษ อบต.พลิกโฉมประเทศ เพื่อทบทวนบริบทการพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และดำเนินการปฏิรูปท้องถิ่นให้ดีขึ้น 1 ใน 11 ด้านภายใต้สภาปฏิรูปแห่งชาติ ให้สอดคล้องกับบริบทของสังคมไทยและสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนไป
ทั้งนี้ สมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดโครงการดังกล่าวขึ้น มีผู้เข้าร่วมประกอบด้วยตัวแทนผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น และข้าราชการส่วนท้องถิ่น ในสังกัดองค์การบริหารส่วนตำบล และเทศบาลจากทั้ง 48 จังหวัด ผู้เข้าร่วมกว่า 600 คน
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังปาฐกถาพิเศษเรื่อง 20 ปี อบต.กับการพัฒนาท้องถิ่น ก้าวต่อไปอย่างไรให้มั่นคง ว่า 20 ปีที่ผ่านมา อบต.ได้พัฒนามาสู่จุดที่เรียกว่าเข้ารูปเข้ารอยแล้ว ซึ่งจะก้าวเดินไปอย่างไรนั้น จากนี้การทำงานระหว่างส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ท้องถิ่น คงต้องเป็นภาพที่ชัดเจน
คือ สามารถตรวจสอบอำนาจ ความรับผิดชอบได้ และเป็นเรื่องที่พูดได้ชัดเจนว่า ภูมิภาคเป็นส่วนเชื่อมโยงความเป็นประเทศเดียวกันต่อรัฐบาลในส่วนกลาง ส่วนท้องถิ่น คือ เจ้าของพื้นที่ รู้ปัญหาทุกจุดต่างๆ เป็นการช่วยกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในขณะเดียวกัน ไม่ว่าจะส่วนกลาง ภูมิภาค ท้องถิ่น ต้องยึดหลักธรรมาภิบาลเป็นสำคัญ ซึ่งจะนำไปสู่การพลิกโฉมใหม่ของท้องถิ่นให้เป็นรูปธรรมต่อไป
ม.ล.ปนัดดาระบุว่า สำหรับสิ่งที่ต้องขับเคลื่อนสู่ท้องถิ่นต่อไป นั่นคือ การจัดให้มีศูนย์บริการประชาชน ซึ่งขณะนี้ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ที่ผ่านมาจะมีศูนย์ดำรงธรรมของฝ่ายปกครองที่ศาลากลางและที่ว่าการอำเภอในทุกจังหวัดทั่วประเทศ แต่จากนี้ไปทางท้องถิ่นจะให้ความร่วมมือร่วมใจทั้งในส่วนองค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล
อะไรที่แก้ปัญหาได้ในระดับท้องถิ่นก็แก้ไข อะไรที่แก้ไขไม่ได้ก็ต้องให้ภูมิภาคทำ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกันกับจังหวัดอื่นๆ ด้วย ถ้าส่วนกลางก็เชื่อมโยงไปยังศูนย์บริการประชาชนซึ่งอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล
สำหรับระยะเวลาจะเป็นรูปธรรมเมื่อไรขึ้นอยู่กับทุกฝ่ายต้องช่วยเหลือกัน และความร่มเย็นเป็นสุขจะกลับเข้าสู่ไทยได้ ความสำเร็จจะต้องมาก่อน” ม.ล.ปนัดดากล่าว
ม.ล.ปนัดดากล่าวถึงข้อคิดในการนำพาประเทศสู่การปฏิรูปว่า “เราไม่ใช่ประเทศร่ำรวย เรามีพอสมควร พออยู่ได้ แต่ก็ไม่เป็นประเทศที่ก้าวหน้าอย่างมาก เราไม่อยากจะเป็นประเทศก้าวหน้าอย่างมาก เพราะถ้าเราเป็นประเทศที่ก้าวหน้าอย่างมาก ก็จะมีแต่ถอยกลับ แต่ถ้าเรามีการบริหารแบบเรียกว่า “แบบคนจน” แบบที่ไม่ติดกับตำรามากเกินไป ทำอย่างสามัคคี นี้แหละคือ เมตตากัน จะอยู่ได้ตลอดไป” และให้เกิดความรักใคร่ อย่าให้เป็นเครื่องมือของใครเพื่อเกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชน
ทั้งนี้ ขณะแสดงปาฐกถามีตัวแทนของผู้เข้าสัมมนาขึ้นกล่าวแสดงความคิดเห็นว่า “อย่ามองท้องถิ่นทุจริต ผมเข้าไปเป็นนายก อบต.ทำอะไรไม่ได้เลย ระเบียบก็เยอะ คนตรวจสอบก็เยอะ เงินพัฒนาก็น้อย ทำไรไม่ได้ อับอายพี่น้อง ผมจะมองหน้าพวกเขาไม่ได้ แต่สำหรับส่วนที่พลั้งพลาดไป ก็ถือว่าไม่ตั้งใจ ก็ให้พิจารณาไป ส่วนคนที่ตั้งใจโกงกินจริงๆ เวรกรรมก็จะมาทางอินเทอร์เน็ตเอง จะมีคนเอาไปโพสต์ไปแฉเอง”