นครปฐม - หนุ่มใหญ่พิการขาเดินไม่ได้ชาวนครปฐม ดิ้นรนนั่งรถวีลแชร์รับจ้างขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในปั๊มน้ำมัน เดือนละ 6,000 บาท เผยที่ผ่านมา ขอโควตาหวยคนพิการไปนานแล้วร่วม 2 ปี แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้เป็นสิทธิของตัวเองสักที ขณะที่แม่ก็แก่ชราอายุ 80 ปี วอนรัฐบาล คสช.ช่วยเหลือ
วันนี้ (28 ก.พ.) ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. หมู่ 6 ต.บ่อพลับ อ.เมือง จ.นครปฐม ผู้สื่อข่าวได้พบกับ นายอำนาจ วิมูลชาติ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 หมู่ 8 ต.หินมูล อ.บางเลน จ.นครปฐม ซึ่งนั่งบนรถวีลแชร์ที่หน้าตักวางแผงจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่ที่หน้าห้องน้ำ อาศัยเพียงร่มเงาจากต้นไม้หลบร้อนเพื่อจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลก่อนจะมีการออกผลการจับรางวัลในวันพรุ่งนี้ (1 มี.ค.) จึงเข้าสอบถามถึงรายได้ และสถานการณ์การจำหน่ายสลากกินแบ่งวันใกล้มีการออกรางวัล
นายอำนาจ วิมูลชาติ บอกว่า เดิมเมื่อกว่า 2 ปีที่ผ่านมา ตนทำงานเป็นคนงานในโรงานทำหลังคาแต่ประสบอุบัติเหตุต้องไปผ่าหลัง และทำให้เกิดปัญหาเดินไม่ได้มาตั้งแต่ตอนนั้น และต้องนั่งอยู่บนรถวีลแชร์ แต่ด้วยความที่มีแม่อายุ 80 ปี และที่บ้านยากจน พี่สาวก็ต้องรับจ้างทำนา ทำให้ต้องดิ้นรนต่อสู้ชีวิต โดยสุดท้ายก็ได้มาเป็นลูกจ้างรับจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล แต่ต้องมาหาทำเลจำหน่ายที่ในตัวเมืองนครปฐมเอาเอง ทำให้ในแต่ละวันตนต้องนำสลากจากบ้านพักมาจำหน่ายที่บริเวณนี้รวมระยะทางไป-กลับประมาณ 100 กิโลเมตร เนื่องจากต้องหาจุดที่มีลูกค้าที่ผ่านมาซื้อสลากได้ง่าย โดยจะได้รับเงินเดือนจากการจำหน่าย เดือนละ 6,000 บาท เพื่อเป็นรายได้ยังชีพและเลี้ยงดูมารดา
นายอำนาจ บอกอีกว่า ตอนนี้ตนเองได้รับการแจ้งจากนายทุนในการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้จำหน่ายสลากชนิดใบคู่ละ 110 บาท และแบบชุดคู่ละ 120 บาท ซึ่งก็เป็นราคามาตรฐานที่ร้านค้าคนปกติทั่วไปจำหน่ายแถวตัวเมืองนครปฐม ซึ่งลูกค้าเห็นว่าตนเองเป็นคนพิการก็ไม่ได้บ่นเรื่องราคาที่แพงเพราะอยากช่วยให้มีรายได้ และหลายรายก็เป็นลูกค้าประจำเข้าใจว่าต้นทุนก่อนจะมาถึงตนนั้นราคาสูง แต่ตนเองก็ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วตอนนี้ต้นทุนที่ส่งจากกองสลากราคาใบละเท่าไหร่ มีเพียงหน้าที่ขายไปแต่ละงวด ก็ไปรับเงินเดือนเท่านั้น
“ผมเคยขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในยุครัฐบาล คสช.คู่ละ 90 บาท ที่เคยมีการออกมาห้ามไม่ให้จำหน่ายสลากราคาแพงได้เพียงงวดเดียว จากนั้นงวดต่อมาก็ขยับราคาเป็น 100 บาท และปรับราคาขึ้นเป็น 110 บาท จนถึงงวดนี้ ส่วนตัวผมไม่รู้เรื่องราคาต้นทุนเลยว่าเท่าไหร่กันแน่ รู้ว่าทำงานได้เงินเดือนๆ ละ 6 พันบาทก็พออยู่ได้ ถึงต้องตื่นแต่เช้าตรูก็ยังดีกว่าไม่มีงานทำ” นายอำนาจ กล่าวให้ฟังถึงสถานการณ์ราคาสลากกินแบ่งรัฐบาล
นายอำนาจ กล่าวต่อว่า “ถึงวันนี้ผมทำเรื่องขอโควตาคนพิการที่จะได้สลากกินแบ่งรัฐบาลมาจำหน่ายเป็นโควตาของตัวเองกว่า 2 ปีแล้ว เอกสารส่งหมด ที่ทางเจ้าหน้าที่ต้องการ แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับอะไรกลับมา และที่ผ่านมา ได้ฝากให้คนที่เปิดเว็บไซต์เป็นให้ช่วยดูให้บ่อยก็ไม่เคยได้มีชื่อปรากฏสักที เพื่อนๆ ที่พิการด้วยกันก็พยายามติดตามข่าวสาร ก็ยังไม่มีใครได้ แต่ไม่รู้ว่าคนที่ไม่พิการเขาได้โควตากันมากแค่ไหน โชคดีที่นายทุนไม่ได้บีบให้ต้องจำหน่ายสลากให้หมดทุกครั้ง เพราะถ้างวดไหนสลากเหลือวันที่มีการออกสลาก เวลาก่อนเที่ยงผมก็จะนำสลากกลับไปส่งที่นายทุน และจะมีเอเยนต์เครือข่ายมารับไปจำหน่ายต่อ เพื่อป้องกันสลากติดคามือ ซึ่งก็ยังโชคดี แต่วันนี้ก็เหมือนเป็นลูกจ้างเขาต้องเดินทางไกล กลัวอุบัติเหตุเหมือนกันแต่เราก็ต้องสู้”
“เดิมผมรู้มาว่าคนพิการจะได้โควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดละ 3 เล่มต่อคน แต่ตอนนี้ผมไม่รู้อะไรเลยว่าราคาต้นทุนการกระจายสลากเป็นอย่างไร ก็ทำหน้าที่รับสลากมาขายกินเงินเดือน แต่วันหนึ่งผมอยากจะได้โควตาเป็นของตัวเองจะได้มีอาชีพที่มั่นคงเพื่อดูแลแม่ และเก็บไว้กินไว้ใช้ เห็นว่างวดหน้าจะลดราคาสลากอีกครั้งก็ไม่รู้จะจริงมั้ย ตอนนี้ก็ปรับตัวตามนโยบายของรัฐบาลว่าเขาจะเอายังไงผมก็ปรับตาม และอยากวิงวอนขอไปยังรัฐบาลให้หันมาช่วยดูแลคนพิการมากกว่านี้ เพราะโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลสำหรับคนพิการนั้นมีค่ามาก มันเป็นทั้งชีวิตของเราเลย” นายอำนาจ บอกปิดท้ายด้วยความหวัง
พร้อมกับฝากไปถึงงรัฐบาลภายใต้การปกครองโดย คสช.ว่า จะทำให้คนพิการที่รอสิทธิได้รับข่าวสาร หรือมีโควตามาบ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในจังหวัดนครปฐมนั้นมีพื้นที่การจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่เป็นแหล่งใหญ่ คือ ที่ตลาดโต้รุ่งในองค์พระปฐมเจดีย์ โดยวันที่มีการออกสลากจะมีผู้คนจำนวนมากมาหาซื้อสลากก่อนจะมีการออกรางวัล และบริเวณโดยรอบจะมีเอเยนต์รายใหญ่ๆ ราว 4-5 เจ้า ส่วนคนพิการทั้งตาบอด หรือเดินไม่ได้ก็จะอยู่กระจัดกระจายตามปั๊มน้ำมันที่มีคนสัญจรไปมา หรือร้านอาหารที่บางร้านจัดสถานที่ไว้ให้คนพิการได้จำหน่าย ซึ่งคนพิการหลายคนก็ยังไม่ได้รับโควตาหลังจากรอมานานแรมปีเช่นกัน
