ตราด - ทหารหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินที่ 182 บ้านหาดเล็ก ร่วมเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.คลองใหญ่ บุกตรวจสอบร้านซื้อขาย จยย.มือสอง หวั่นมีการลักลอบนำ จยย.ส่งขายกัมพูชาโดยไม่ผ่านกระบวนการศุลกากร
วันนี้ (27 ก.พ.) นท.ศราวุธ บุตรเสรีชัย ผบ.ฉก.นย.182 บ้านหาดเล็ก ได้สั่งการให้ เรือโทบุญมี เพร็ชทอง หัวหน้าชุดปืนเล็ก ฉก.นย.182 บ้านเขาวง พร้อมประสานกําลังเจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.คลองใหญ่กว่า 20 นาย เข้าตรวจสอบตึกแถวของ หจก.เอ็มซีมอเตอร์ 2014 ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 231/17 ม.9 ต.คลองใหญ่ บนถนนสายคลองใหญ่-หาดเล็ก เพื่อตรวจสอบรถจักรยานยนต์ซึ่งอยู่บนชั้น 2 ของอาคาร จำนวน 45 คัน
ทั้งนี้ ได้ขอตรวจสอบเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์และผู้ครอบครองทั้ง 45 คัน ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซีบีอาร์ 5 คัน ยี่ห้อฮอนด้า ซูเมอร์เอกซ์ 7คัน ยี่ห้อยามาฮ่า สกู๊ปปี้ไอ 33 คัน ซึ่งพบเอกสารที่เป็นใบสำคัญการจดทะเบียนพาณิชย์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานกลางทะเบียนพาณิชย์ ที่ออกให้ นายสายชล อินทเกสร อายุ 50 ปี ที่เป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ทั้งหมด พร้อมระบุว่า นายสายชล เป็นผู้ซื้อรถจักรยานยนต์ทั้งหมดเพื่อส่งขายเป็นรถจักรยานยนต์มือสองไปยังประเทศกัมพูชา
จากการตรวจสอบพบว่า รถจักรยานยนต์ทุกคันมีเอกสาร และหมายเลขรถตรงกัน จำนวน 39 คัน ส่วนอีก 6 คัน ต้องรอเอกสารงานทะเบียนจากสำนักงานขนส่งจังหวัด ซึ่งทางร้านแจ้งว่า เมื่อดำเนินการเสร็จสิ้นจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบอีกครั้ง
ด้านเรือโทบุญมี กล่าวว่า การตรวจสอบในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายเข้มงวดของรัฐบาลที่ให้กวดขันดูแลการลักลอบสินค้าหนีภาษีทางด้านชายแดน เพื่อป้องกันการลักลอบนำรถจักรยานยนต์ส่งขายไปยังประเทศกัมพูชาโดยไม่ผ่านกระบวนการศุลกากร
วันนี้ (27 ก.พ.) นท.ศราวุธ บุตรเสรีชัย ผบ.ฉก.นย.182 บ้านหาดเล็ก ได้สั่งการให้ เรือโทบุญมี เพร็ชทอง หัวหน้าชุดปืนเล็ก ฉก.นย.182 บ้านเขาวง พร้อมประสานกําลังเจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.คลองใหญ่กว่า 20 นาย เข้าตรวจสอบตึกแถวของ หจก.เอ็มซีมอเตอร์ 2014 ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 231/17 ม.9 ต.คลองใหญ่ บนถนนสายคลองใหญ่-หาดเล็ก เพื่อตรวจสอบรถจักรยานยนต์ซึ่งอยู่บนชั้น 2 ของอาคาร จำนวน 45 คัน
ทั้งนี้ ได้ขอตรวจสอบเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์และผู้ครอบครองทั้ง 45 คัน ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซีบีอาร์ 5 คัน ยี่ห้อฮอนด้า ซูเมอร์เอกซ์ 7คัน ยี่ห้อยามาฮ่า สกู๊ปปี้ไอ 33 คัน ซึ่งพบเอกสารที่เป็นใบสำคัญการจดทะเบียนพาณิชย์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานกลางทะเบียนพาณิชย์ ที่ออกให้ นายสายชล อินทเกสร อายุ 50 ปี ที่เป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ทั้งหมด พร้อมระบุว่า นายสายชล เป็นผู้ซื้อรถจักรยานยนต์ทั้งหมดเพื่อส่งขายเป็นรถจักรยานยนต์มือสองไปยังประเทศกัมพูชา
จากการตรวจสอบพบว่า รถจักรยานยนต์ทุกคันมีเอกสาร และหมายเลขรถตรงกัน จำนวน 39 คัน ส่วนอีก 6 คัน ต้องรอเอกสารงานทะเบียนจากสำนักงานขนส่งจังหวัด ซึ่งทางร้านแจ้งว่า เมื่อดำเนินการเสร็จสิ้นจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบอีกครั้ง
ด้านเรือโทบุญมี กล่าวว่า การตรวจสอบในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายเข้มงวดของรัฐบาลที่ให้กวดขันดูแลการลักลอบสินค้าหนีภาษีทางด้านชายแดน เพื่อป้องกันการลักลอบนำรถจักรยานยนต์ส่งขายไปยังประเทศกัมพูชาโดยไม่ผ่านกระบวนการศุลกากร