อุบลราชธานี-คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จัดเสวนาการเมือง “สมบัติ” มองการเลือกตั้ง ไม่ใช่วิธีทำให้ได้รัฐบาลที่ดี ด้านวรเจตน์ นักวิชาการเสื้อแดง เชื่อรัฐบาลประยุทธ์ อยู่ไม่นาน แต่จะสร้างกลไกคุมรัฐบาลใหม่
วันนี้ (27ก.พ.58) ที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี คณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จัดเสวนาทางสังคมศาสตร์เรื่อง “การปฏิรูปเพื่อความงาม ความเจริญ และความเป็นธรรม” โดยมีผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย ศ.ดร.สมบัติ จันทรวงศ์ , รศ.ม.ร.ว.พฤทธิสาณ ชุมพล , รศ.ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ , ดร.ฐิติพล ภักดีวานิช , และนายอธึกกิต แสวงสุข มีนักศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์/นิติศาสตร์ อาจารย์ในมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมฟังประมาณ 300 คน
ศ.ดร.สมบัติ จันทรวงศ์ อดีตอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงการปฏิรูปและประชาธิปไตยในเมืองไทยยังไม่สมบูรณ์ เพราะคนในประเทศไม่เคารพกฎหมาย ขณะที่มีคำถามถึงสหรัฐอเมริกาเมื่อตั้งประเทศก็มีประชาธิปไตยสมบูรณ์ เนื่องจากพลเมืองอเมริกันไม่มีจารีตประเพณี ไม่มียศถาบรรดาศักดิ์ ผิดจากประเทศอังกฤษที่มีจารีตและชนชั้น จึงปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ยาก
โดยมองว่าการเลือกตั้งไม่ใช่วิธีทำให้ได้รัฐบาลที่ดีได้ และรัฐบาลที่มีเสียงข้างมาก ต้องฟังเสียงของคนส่วนน้อยด้วย ประชาธิปไตยของประเทศไทยยังไม่หยั่งรากลึก บางครั้งจึงเอาทรราชเข้ามาเป็นผู้บริหารประเทศ การปฏิรูปต้องดูว่าทำอย่างไร ให้ประเทศมีรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ มีความชอบธรรม จะได้ไม่ต้องมาล้มไปมา ต้องสร้างสังคมที่เสรีหรือสังคมที่เป็นประชาธิปไตย
ขณะที่นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คงอยู่ไม่นาน แต่จะมีการสร้างเครื่องมือผ่านรัฐธรรมนูญมาใช้ควบคุมการจัดหานายกรัฐมนตรี นักการเมือง โดยใช้องค์กรอิสระเป็นเครื่องมือครอบรัฐบาลไว้อีกชั้น อาจมีอำนาจเข้าถึงนโยบายการทำงานของรัฐบาล
การได้มาของรัฐบาลใหม่ ไม่ได้มาจากอำนาจของประชาชน ดังนั้นอำนาจ จึงยังไม่เป็นของประชาชน และกฎหมายยังไม่เป็นธรรม อยากให้มองตัวอย่างประเทศเกาหลี หลังสงครามกลางเมือง มีการแยกการปกครองเป็นสองระบบ โดยเกาหลีใต้เป็นประชาธิปไตย อีกประเทศปกครองแบบเผด็จการ จึงเห็นการเจริญเติบโตของสังคมแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นการปฏิรูป ต้องมีผู้ปกครองที่เป็นธรรม ต้องสร้างกลไกถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยให้ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจ ถอดถอนผ่านสภา
วันนี้ (27ก.พ.58) ที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี คณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จัดเสวนาทางสังคมศาสตร์เรื่อง “การปฏิรูปเพื่อความงาม ความเจริญ และความเป็นธรรม” โดยมีผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย ศ.ดร.สมบัติ จันทรวงศ์ , รศ.ม.ร.ว.พฤทธิสาณ ชุมพล , รศ.ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ , ดร.ฐิติพล ภักดีวานิช , และนายอธึกกิต แสวงสุข มีนักศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์/นิติศาสตร์ อาจารย์ในมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมฟังประมาณ 300 คน
ศ.ดร.สมบัติ จันทรวงศ์ อดีตอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงการปฏิรูปและประชาธิปไตยในเมืองไทยยังไม่สมบูรณ์ เพราะคนในประเทศไม่เคารพกฎหมาย ขณะที่มีคำถามถึงสหรัฐอเมริกาเมื่อตั้งประเทศก็มีประชาธิปไตยสมบูรณ์ เนื่องจากพลเมืองอเมริกันไม่มีจารีตประเพณี ไม่มียศถาบรรดาศักดิ์ ผิดจากประเทศอังกฤษที่มีจารีตและชนชั้น จึงปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ยาก
โดยมองว่าการเลือกตั้งไม่ใช่วิธีทำให้ได้รัฐบาลที่ดีได้ และรัฐบาลที่มีเสียงข้างมาก ต้องฟังเสียงของคนส่วนน้อยด้วย ประชาธิปไตยของประเทศไทยยังไม่หยั่งรากลึก บางครั้งจึงเอาทรราชเข้ามาเป็นผู้บริหารประเทศ การปฏิรูปต้องดูว่าทำอย่างไร ให้ประเทศมีรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ มีความชอบธรรม จะได้ไม่ต้องมาล้มไปมา ต้องสร้างสังคมที่เสรีหรือสังคมที่เป็นประชาธิปไตย
ขณะที่นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คงอยู่ไม่นาน แต่จะมีการสร้างเครื่องมือผ่านรัฐธรรมนูญมาใช้ควบคุมการจัดหานายกรัฐมนตรี นักการเมือง โดยใช้องค์กรอิสระเป็นเครื่องมือครอบรัฐบาลไว้อีกชั้น อาจมีอำนาจเข้าถึงนโยบายการทำงานของรัฐบาล
การได้มาของรัฐบาลใหม่ ไม่ได้มาจากอำนาจของประชาชน ดังนั้นอำนาจ จึงยังไม่เป็นของประชาชน และกฎหมายยังไม่เป็นธรรม อยากให้มองตัวอย่างประเทศเกาหลี หลังสงครามกลางเมือง มีการแยกการปกครองเป็นสองระบบ โดยเกาหลีใต้เป็นประชาธิปไตย อีกประเทศปกครองแบบเผด็จการ จึงเห็นการเจริญเติบโตของสังคมแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นการปฏิรูป ต้องมีผู้ปกครองที่เป็นธรรม ต้องสร้างกลไกถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยให้ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจ ถอดถอนผ่านสภา