ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวบ้านกว่า 3 พันคน ใน 2 ตำบลของอำเภอเมืองชลบุรี รวมตัวประท้วงคัดค้านไม่เอาถนนตัดใหม่ช่วงที่ 1 จากอำเภอเมือง ไปอำเภอบ้านบึง สุดท้ายกรมทางหลวงยอมยุติแต่โดยดี แต่ไปก่อสร้างช่วงที่ 2 แทน เพราะชาวบ้านต้องการแก้ไขปัญหาการจราจรที่ติดขัดอย่างหนักมาช้านาน
วันนี้ (24 ก.พ.) ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเมือง จ.ชลบุรี มีชาวบ้านกว่า 3,000 คน ในพื้นที่ ต.หนองไม้แดง และ ต.นาป่า อ.เมือง จ.ชลบุรี มารวมตัว และถือป้ายประท้วงไม่เอาโครงการก่อสร้างถนนแนวใหม่ หมายเลข 344 ช่วงที่ 1 อ.เมืองชลบุรี ไป อ.บ้านบึง โดยมี นายเชาวลิตร แสงอุทัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย นายเลอสันต์ ศศิพงศ์ นายอำเภอเมืองชลบุรี และ พ.ต.อ.พิสิฎฐ์ โปรยรุ่งโรจน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี มาดูแล และรักษาความสงบเรียบร้อย
ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องต่อโครงการก่อสร้างทางหลวงแนวใหม่ สายชลบุรี-บ้านบึง ซึ่งมี นายบรรพต เจริญสัตยธรรม รองผู้จัดการโครงการ พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ บุญประทานพร ตัวแทนจากกรมทางหลวง เดินทางมารับฟังปัญหาต่างๆ จนกระทั่งมีการตกลงกันเป็นเวลานานประมาณ 2 ชั่วโมง
หลังจากนั้น นายสมศักดิ์ บุญประทานพร ตัวแทนกรมทางหลวง กล่าวว่า กรมทางหลวงรับทราบปัญหาว่า ชาวบ้านใน 2 อำเภอดังกล่าวไม่อยากได้ทางหลวงแนวใหม่ หมายเลข 344 สาย อ.เมืองชลบุรี ไป อ.บ้านบึง ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรที่ติดขัดอย่างหนัก เป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง และขนส่ง ซึ่งหากมีการก่อสร้างถนนเส้นนี้จะเป็นการแก้ไขปัญหาความแออัดการจราจรเป็นอย่างดี
แต่สำหรับถนนเส้นนี้พาดผ่าน 6 ตำบล 2 อำเภอ คือ ต.นาป่า ต.หนองไม้แดง ต.สำนักบก ของ อ.เมือง และ ต.มาบไผ่ ต.บ้านบึง ต.หนองชาก ของ อ.บ้านบึง มีการสร้าง 2 ช่วง ช่วงที่ 1 ระยะทาง 5 กม. และช่วงที่ 2 จำนวน 17 กม. รวมทั้ง 22 กม.
ที่ผ่านมา หลังจากการทำประชาพิจารณ์มาทั้งหมด 3 ครั้ง ปรากฏว่า ชาวบ้านใน ต.หนองไม้แดง และ ต.นาป่า ของ อ.เมืองชลบุรี คัดค้านการก่อสร้างมาตลอด ซึ่งเป็นการก่อสร้างในช่วงที่ 1 เพราะชาวบ้านกลัวถูกเวนคืน แต่ชาวบ้านใน 4 ตำบลที่เหลือต้องการให้มีการก่อสร้างโครงการต่อ
ดังนั้น จึงได้ขอสรุปคือ กรมทางหลวงจะยุติการก่อสร้างในช่วงที่ 1 ของ ต.หนองไม้แดง และ ต.นาป่า แต่จะเริ่มก่อสร้างโครงการต่อในช่วงที่ 2 เลย คือ ตั้งแต่ช่วงมอเตอร์เวย์ตัดไป 4 ตำบล คือ ต.สำนักบก ต.มาบไผ่ ต.บ้านบึง และสิ้นสุดที่ ต.หนองชาก อ.บ้านบึง เป็นระยะทาง 17 กม. โดยจะทำหนังสือไปยังอธิบดีกรมทางหลวงรับทราบต่อไป
หลังจากได้ข้อสรุปว่า ยุติในช่วงที่ 1 ทำให้ชาวบ้านกว่า 3,000 คน ดีใจ และยอมสลายการชุมนุม กลับบ้านอย่างมีความสุข
วันนี้ (24 ก.พ.) ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเมือง จ.ชลบุรี มีชาวบ้านกว่า 3,000 คน ในพื้นที่ ต.หนองไม้แดง และ ต.นาป่า อ.เมือง จ.ชลบุรี มารวมตัว และถือป้ายประท้วงไม่เอาโครงการก่อสร้างถนนแนวใหม่ หมายเลข 344 ช่วงที่ 1 อ.เมืองชลบุรี ไป อ.บ้านบึง โดยมี นายเชาวลิตร แสงอุทัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย นายเลอสันต์ ศศิพงศ์ นายอำเภอเมืองชลบุรี และ พ.ต.อ.พิสิฎฐ์ โปรยรุ่งโรจน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี มาดูแล และรักษาความสงบเรียบร้อย
ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องต่อโครงการก่อสร้างทางหลวงแนวใหม่ สายชลบุรี-บ้านบึง ซึ่งมี นายบรรพต เจริญสัตยธรรม รองผู้จัดการโครงการ พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ บุญประทานพร ตัวแทนจากกรมทางหลวง เดินทางมารับฟังปัญหาต่างๆ จนกระทั่งมีการตกลงกันเป็นเวลานานประมาณ 2 ชั่วโมง
หลังจากนั้น นายสมศักดิ์ บุญประทานพร ตัวแทนกรมทางหลวง กล่าวว่า กรมทางหลวงรับทราบปัญหาว่า ชาวบ้านใน 2 อำเภอดังกล่าวไม่อยากได้ทางหลวงแนวใหม่ หมายเลข 344 สาย อ.เมืองชลบุรี ไป อ.บ้านบึง ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรที่ติดขัดอย่างหนัก เป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง และขนส่ง ซึ่งหากมีการก่อสร้างถนนเส้นนี้จะเป็นการแก้ไขปัญหาความแออัดการจราจรเป็นอย่างดี
แต่สำหรับถนนเส้นนี้พาดผ่าน 6 ตำบล 2 อำเภอ คือ ต.นาป่า ต.หนองไม้แดง ต.สำนักบก ของ อ.เมือง และ ต.มาบไผ่ ต.บ้านบึง ต.หนองชาก ของ อ.บ้านบึง มีการสร้าง 2 ช่วง ช่วงที่ 1 ระยะทาง 5 กม. และช่วงที่ 2 จำนวน 17 กม. รวมทั้ง 22 กม.
ที่ผ่านมา หลังจากการทำประชาพิจารณ์มาทั้งหมด 3 ครั้ง ปรากฏว่า ชาวบ้านใน ต.หนองไม้แดง และ ต.นาป่า ของ อ.เมืองชลบุรี คัดค้านการก่อสร้างมาตลอด ซึ่งเป็นการก่อสร้างในช่วงที่ 1 เพราะชาวบ้านกลัวถูกเวนคืน แต่ชาวบ้านใน 4 ตำบลที่เหลือต้องการให้มีการก่อสร้างโครงการต่อ
ดังนั้น จึงได้ขอสรุปคือ กรมทางหลวงจะยุติการก่อสร้างในช่วงที่ 1 ของ ต.หนองไม้แดง และ ต.นาป่า แต่จะเริ่มก่อสร้างโครงการต่อในช่วงที่ 2 เลย คือ ตั้งแต่ช่วงมอเตอร์เวย์ตัดไป 4 ตำบล คือ ต.สำนักบก ต.มาบไผ่ ต.บ้านบึง และสิ้นสุดที่ ต.หนองชาก อ.บ้านบึง เป็นระยะทาง 17 กม. โดยจะทำหนังสือไปยังอธิบดีกรมทางหลวงรับทราบต่อไป
หลังจากได้ข้อสรุปว่า ยุติในช่วงที่ 1 ทำให้ชาวบ้านกว่า 3,000 คน ดีใจ และยอมสลายการชุมนุม กลับบ้านอย่างมีความสุข
