xs
xsm
sm
md
lg

คนร้ายซิ่ง จยย.ฉกกระเป๋าเงินป้าวัย 51 วางตะกร้าหน้ารถกลางวันแสกๆ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นางสมพิศ  พงษ์ธานี อายุ 52 ปี เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จันทบุรี - คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มาประกบด้านข้างฉกกระเป๋าสตางค์ป้าวัย 51 ปี ที่วางอยู่ในตะกร้าหน้ารถจักรยานยนต์กลางวันแสกๆ โดยมีทรัพย์สินเป็นเงิน 700 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง โดยบริเวณดังกล่าวไม่ได้ติดกล้องวงจรปิด

วันนี้ (24 ก.พ.) นางสมพิศ พงษ์ธานี อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/252 หมู่ที่ 5 ตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.อำนาจ ภูชงค์ ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี ว่า ถูกคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์แบบผู้หญิงสภาพเก่า จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาประกบด้านข้างก่อนที่จะใช้มือเอื้อมฉกกระเป๋าสตางค์ที่มีขนมจีนวางทับอยู่ในตะกร้าด้านหน้ารถจักรยานยนต์ไป

เหตุเกิดขึ้นบริเวณหน้าหมู่บ้านแสนสุข หมู่ที่ 2 ถนนรักษ์ศักดิ์ชมูล ตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี โดยคนร้ายมาคนเดียว มีลักษณะผอมสูงประมาณ 167 เซนติเมตร ไว้ผมยาวปะบ่า ใส่หมวกกันน็อกครึ่งใบ และใส่เสื้อแขนยาวสีชมพูลายสกอต และสวมกางเกงขายาวสีดำ ซึ่งคนร้ายได้ทรัพย์สินเป็นกระเป๋าสตางค์ 1 ใบ เงินสด จำนวน 700 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และเอกสารใบขับขี่ บัตรประชาชน และบัตรเอทีเอ็มไป

ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดีได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนได้ลงพื้นที่ไปที่เกิดเหตุเพื่อไปหาหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อแกะรอยคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ล่าสุด หลังการลงพื้นที่พบบริเวณจุดเกิดเหตุไม่มีการติดกล้องวงจรปิดแต่อย่างใด ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานได้ยากขึ้นในการติดตามตัวคนร้ายรายนี้ แต่ถึงอย่างไร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้หาข่าวเชิงลึก และหาหลักฐานจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนีมาเปรียบเทียบกับแฟ้มประวัติคนร้ายเพื่อเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี

นางสมพิศ พงษ์ธานี ผู้เสียหายให้การว่า ตนเองได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านเพื่อไปซื้อขนมจีนที่ตลาด หลังซื้อเสร็จก็ได้วางกระเป๋าสตางค์ไว้ที่ตะกร้าหน้ารถจักรยานยนต์ โดยมีขนมจีนทับกระเป๋าอยู่ จากนั้นเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุก็ได้มีคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์มาประกบด้านข้างก่อนที่จะเอื้อมไปหยิบกระเป๋าสตางค์ที่อยู่ตะกร้าหน้า และขี่หลบหนีไป ตนเองพยายามขับตามแต่ตามไม่ทัน จึงได้มาร้องทุกข์เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน และก่อนที่จะเข้ามาแจ้งความได้ไปหาตำรวจที่อยู่ประจำป้อมแต่กลับไม่พบว่ามีตำรวจอยู่ ทำให้การติดตามคนร้ายเป็นไปอย่างล่าช้า ทั้งนี้ คนร้ายได้ก่อเหตุในช่วงกลางวันแสกๆ โดยไม่สนใจผู้ที่สัญจรผ่านไปมาแต่อย่างใด
บริเวณตะกร้ารถจักรยานยนต์ที่ถูกคนร้ายฉกทรัพย์สินไป
กำลังโหลดความคิดเห็น