พระนครศรีอยุธยา - นายช่างหมวดการทางบางบาลฯ และนายช่างโยธา อบจ.อยุธยา ลงตรวจถนนสายอยุธยา-อ่างทองสายใน ระยะทางยาวกว่า 2 กม.หลังพ่อค้าแม่ค้ากรุงเก่าแห่พ่นทาสีจับจองพื้นที่ขายของบนถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์กันล่วงหน้า จนถนนจนเลอะเทอะ
วันนี้ (23 ก.พ.) นายสมชาย ขาวดี นายช่างหมวดการทางบางบาล แขวงการทางพระนครศรีอยุธยา และนายฤทธิ์กร สิริทับทิม นายช่างโยธาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พระนครศรีอยุธยา พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบถนนสายอยุธยา-อ่างทองสายใน ช่วงตั้งแต่บริเวณสามแยกโรงเรียนประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา ไปจนถึงบริเวณหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ระยะทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร
หลังจากมีพ่อค้าแม่ค้านำสีต่างๆ มาทาบนถนน และใช้สีสเปรย์พ่นบนพื้นผิวถนน โดยมีข้อความว่า “จอง” พร้อมด้วยชื่อผู้จองขนาดใหญ่ บางจุดมีการเขียนข้อความเอาไว้ว่า “จองขายแป้ง ขายน้ำ 13-15 เม.ย.2558” ตัวอักษรขนาดใหญ่
นอกจากนี้ ยังพบตามขอบฟุตปาธตลอดเส้นทางจนดูสกปรกเลอะเทอะ เป็นภาพที่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยว และประชาชนที่ผ่านไปผ่านมาพบเห็นแล้วดูไม่สวยงาม ซึ่งจะอยู่รอบอ่างเก็บน้ำพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวร มหาราช (ทุ่งภูเขาทอง)
โดยประชาชนให้ข้อมูลว่า พบเห็นมีการพ่นเขียนข้อความบนพื้นถนนมาตั้งแต่เดือนมกราคมเรื่อยๆ มาจนเต็มพื้นที่ไปหมด บางครั้งมีการมาพ่นทับกัน และเกิดการโต้เถียงกัน ซึ่งเป็นการพ่นเขียนข้อความเพื่อจับจองสถานที่ขายน้ำ ขายดินสอพอง ขายอาหาร ในช่วงวันสงกรานต์ ซึ่งจะมีการเล่นน้ำสงกรานต์เยอะกว่าทุกปีที่ผ่านมา
นายฤทธิ์กร กล่าวว่า หลังจากมีประชาชนได้โพสต์ภาพ และข้อความร้องเรียนลงในเพจ ของ “กลุ่มชาวอยุธยาถึงชาวอยุธยาร่วมกันแจ้งข่าวสารและข้อมูล” ว่า มีการทาสีพ่นสีบนพื้นผิวถนนเพื่อจับจองสถานที่ขายของในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทำให้พื้นผิวถนน และขอบฟุตปาธสกปรกเลอะเทอะ เป็นภาพที่ไม่สวยงามต่อผู้พบเห็น จึงได้ร่วมกับแขวงการทางอยุธยาลงพื้นที่ตรวจสอบ
“จะต้องเร่งดำเนินการแก้ไขโดนด่วนด้วยการนำน้ำปูนมาทาทับ ส่วนที่ถนนลาดยางต้องนำน้ำยางมาราดทับ และขอบฟุตปาธต้องทำการทาสีใหม่ ซึ่งในปีนี้พบมีการทาสีมากกว่าทุกปี โดยในปีที่ผ่านมา ทาง อบจ.พระนครศรีอยุธยา และแขวงการทางหมดงบประมาณไปกับการลบร่องรอยการทาสี พ่นสีบนถนนเส้นทางนี้หลายแสนบาท ซึ่งต่อไปจะมีการติดตั้งป้ายห้ามทำการพ่นสีทาสีบนพื้นผิวถนนโดยเด็ดขาด พร้อมทั้งจะจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรวจตราให้เข้มงวดมากขั้น ถ้าใครยังทำอีกจะมีความผิดตามกฎหมายด้วย จึงอยากฝากเตือนประชาชนห้ามกระทำโดยเด็ดขาด” นายฤทธิ์กร กล่าว
