ระยอง - ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เปิดงาน “วันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก” ประจำปี 2558 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
วันนี้ (23 ก.พ.) ที่บริเวณสวนพฤกษศาสตร์ระยอง หมู่ 2 ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานเปิดงาน “วันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก” ประจำปี 2558 เพื่อชุมชน โดยมี นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน นายอำเภอแกลง ดร.สุญาณี เวสสบุตร ผู้อำนวยการองค์การสวนพฤกษศาสตร์ นายวัชนะ บุญชัย หัวหน้าสวนพฤกษศาสตร์ระยอง นายคเชนทร์ แจ่มใส นายกเทศมนตรีตำบลสุนทรภู่ ส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น และนักเรียนกว่า 300 คน ร่วมในพิธี
ภายในงานได้จัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ทรงเป็นผู้นำในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง พิธีมอบทุนการศึกษาเด็กนักเรียน กิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ และกิจกรรมเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพื้นที่ชุ่มน้ำโลก และพื้นที่ชุ่มน้ำที่สำคัญของประเทศ ให้ผู้เข้าร่วมงานได้ตระหนัก และช่วยกันอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำในพื้นที่สืบไป
นายวัชนะ บุญชัย หัวหน้าสวนพฤกษศาสตร์จังหวัดระยอง กล่าวว่า ตามอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำระหว่างประเทศ หรืออนุสัญญาแรมซาร์ ได้กำหนดให้วันที่ 2 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก ซึ่งประเทศไทยได้ร่วมลงนามในอนุสัญญาโลกเมื่อ พ.ศ.2541 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันยับยั้งการสูญหายของพื้นที่ชุ่มน้ำโลกที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ส่งผลกระทบต่อระบบน้ำ หรืออุทกวิทยาโดยรวมของโลก
สำหรับสวนพฤกษศาสตร์จังหวัดระยอง สังกัดองค์การสวนพฤกษศาสตร์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยจังหวัดระยอง ให้ความเห็นชอบเข้ามาพัฒนาพื้นที่ชุ่มน้ำบึงสำนักใหญ่ (หนองจำรุง) แห่งนี้ เมื่อ พ.ศ.2545 และเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2552 มติ ครม.ได้ประกาศให้พื้นที่ชุ่มน้ำบึงสำนักใหญ่ (หนองจำรุง) แห่งนี้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับประเทศ และได้ตระหนักถึงความสำคัญของอนุสัญญาที่เป็นความร่วมมือของประเทศไทยในระดับนานาชาติ
จึงประสานความร่วมมือกับหน่วยราชการ เอกชน และประชาชนในท้องถิ่น กำหนดจัดกิจกรรมเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เนื่องในวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลกเป็นประจำทุกปี ทั้งนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเพื่อสร้างความสมัครสมานสามัคคีของประชาชนในท้องถิ่นให้เข้มแข็ง รวมทั้งช่วยกันอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำบึงสำนักใหญ่ (หนองจำรุง) พื้นที่ประมาณ 3,800 ไร่ ให้คงอยู่ต่อไป