เชียงราย - หนุ่มใหญ่ถูกฆ่าแล้วเผาจนดำเป็นตอตะโก ทิ้งศพลงร่องน้ำข้างทุ่งห่างบ้านราว 500 เมตร พบหางคิ้วมีรอยถูกตีด้วยของแข็ง คาดคนใกล้ตัวเป็นคนลงมือ หลังอยู่บ้านกับลูกชายสติไม่ดีเพียง 2 คน แต่หลังเกิดเหตุลูกชายหายไปไร้ร่องรอย ขณะที่เมียไปเฝ้าไข้ลูกสาวที่โรงพยาบาล 3 วัน
วันนี้ (22 ก.พ.) พ.ต.ต.ชัยยุทธ ครองงามภิญโญ สารวัตรเวร สภ.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย รับแจ้งเหตุคนถูกทำร้ายเสียชีวิตทิ้งศพบริเวณร่องน้ำข้างทุ่งนา บ้านห้วยขม หมู่ 1 ต.แม่ยาว จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยชุดสืบสวน แพทย์นิติเวช และหน่วยกู้ภัยรุดไปตรวจสอบ พบว่าที่เกิดเหตุเป็นป่าละเมาะติดกับถนนลัดเลาะทุ่งนาและป่าเขา ห่างจากชุมชนประมาณ 500 เมตร พบศพนายสุข ชัยเวียง อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 328 หมู่ 10 ต.แม่ยาว สภาพร่างกายด้านหน้าตั้งแต่ปากลงมาถึงข้อเท้าถูกไฟไหม้จนดำเป็นตอตะโก เหลือเพียงแขนซ้ายข้างเดียวที่มีผิวหนังอยู่ ใบหน้าเหลือให้เห็นเค้าเดิมเล็กน้อย ส่วนแผ่นหลังมีผิวหนังไม่ถูกเผาไหม้มากนัก เมื่อตรวจที่ใบหน้าบริเวณคิ้วด้านซ้ายพบมีรอยถูกตีด้วยของแข็ง
จากการตรวจสภาพที่เกิดเหตุ พบว่าศพติดอยู่ในร่องน้ำที่มีหญ้ารกปกคลุมไปทั่วบริเวณ แต่เหนือร่องน้ำขึ้นมาเล็กน้อยพบกองขี้เถ้า และรอยศพที่เคยวางอยู่ก่อนที่จะไถลลงไปในร่องน้ำ
เจ้าหน้าที่จึงสอบถามชาวบ้านได้ความว่า ผู้ตายอยู่ที่บ้านเลขที่ 291 บ้านแม่ยาว ห่างจากจุดที่พบศพประมาณ 500 เมตร โดยอาศัยอยู่กับภรรยา คือ นางแสงจันทร์ ชัยเวียง อายุ 59 ปี และลูกชายอีก 1 คน รวมทั้งหมด 3 คน เจ้าหน้าที่จึงไปตามตัวนางแสงจันทร์มาดูศพ ซึ่งได้รับการยืนยันว่าเป็นสามีของตัวเองจริง แต่ไม่ทราบว่าเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้นได้อย่างไร เนื่องจากช่วงเกิดเหตุไม่อยู่บ้าน แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่พบนายวิทศักดิ์ ชัยเวียง อายุ 35 ปี ลูกชายของผู้ตายอยู่ที่บ้านแต่อย่างใด
สอบสวนนางแสงจันทร์ให้การว่า ตนและนายสุขมีบุตรด้วยกัน 4 คน โดย 2 คนแรกมีครอบครัวแยกย้ายกันไปอยู่ที่อื่นหมดแล้ว แต่มีผู้หญิง 1 คนที่กำลังป่วยด้วยโรคนิ่ว อยู่ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ทำให้ตนต้องไปนอนเฝ้ามา 3 วันแล้ว ที่บ้านจึงมีนายสุข กับนายวิทศักดิ์อยู่ด้วยกันเพียง 2 คน
นางแสงจันทร์บอกว่า ปกติสามีมักจะชอบดื่มสุราจนเมาเป็นประจำทุกวัน ทำให้มีปัญหาครอบครัวมาก ส่วนลูกชายคือนายวิทศักดิ์ก็สติไม่ดี เคยพาตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล และรับยามารับประทานก่อนนอนทุกวันมาร่วม 10 ปีแล้ว อาการคือ เมื่อมีใครพูดจากระทบจิตใจแรงๆ ก็จะตอบโต้รุนแรงทันที และถ้าตรวจพบความจริงว่าบุตรชายเป็นคนลงมือด้วยเหตุดังกล่าวก็เชื่อว่าจะกลับมาหมู่บ้านอีกแน่เพราะคงไปไหนไม่รอด
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าผู้ที่ลงมือก่อเหตุสังหารและเผาศพนายสุขคือคนใกล้ตัวผู้ตาย หลังจากเกิดเหตุหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ส่วนประเด็นการสังหารโหดเชื่อว่าอาจเกิดจากการที่ผู้ตายมักดื่มสุรา และบ่นว่า ทำให้อีกฝ่ายตีศีรษะด้วยของแข็งจนสลบหรือถึงแก่ความตาย จากนั้นลากศพไปยังป่าละเมาะท้ายหมู่บ้าน ก่อนลงมือเผาเหนือร่องน้ำ แต่ศพไหม้ไม่หมด จึงถีบลงไปในร่องน้ำดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้ติดตามหาตัวนายวิทศักดิ์ ซึ่งเป็นบุคคลน่าสงสัยที่สุด มาสอบสวนเพื่อค้นหาข้อเท็จจริงต่อไป