สยอง! รถพ่วงบรรทุกอ้อยเต็มคัน ชนรถจักรยานยนต์สาว ปวช.คอขาดดับสยอง

กำแพงเพชร - รถพ่วงบรรทุกอ้อยเต็มคัน ชนรถจักรยานยนต์สาว ปวช.ปี 3 ดับสยองต่อหน้าแฟนหนุ่มที่ขี่รถอีกคันตามมา

คืนที่ผ่านมา ร.ต.ท.สุสันต์ เสมาฉิม พนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.กำแพงเพชร รับแจ้งเหตุมีรถพ่วงบรรทุกอ้อยทับคนเสียชีวิต หมู่ที่ 12 บ้านนาเจริญสุข ต.คณฑี จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยสว่างกำแพงเพชร

พบรถพ่วงทะเบียน 81-7465 กำแพงเพชร บรรทุกอ้อยมาเต็มคัน กันชนด้านหน้ามีรอยยุบ ไฟส่องแสงสว่างข้างขวาแตก มีคราบเลือดติดอยู่ ใต้ท้องรถพ่วงพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีขาว หมาย กษบ 607 กำแพงเพชร สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ส่วนคนขับรถพ่วงทราบชื่อคือ นายอนุชา น้อยฉลาด ยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ในที่เกิดเหตุ

ห่างออกไปประมาณ 200 เมตร พบร่างผู้เสียชีวิต คือ น.ส.ธาวินี พวงสิน อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 251/3 หมู่ 8 ต.นครชุม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร เป็นนักศึกษาระดับ ปวช. คณะคหกรรม วิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชร สภาพศพศีรษะขาดออกจากร่างกระเด็นตกไปอยู่ข้างทางในป่าละเมาะ ส่วนอวัยวะหลายส่วนของร่างกายแหลกกระจัดกระจายไปทั่วถนน จึงให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยสว่างกำแพงเพชร เก็บมากองรวมกันในห่อผ้า

นายสมพร อิ่มแก่น อายุ 24 ปีอยู่บ้านเลขที่ 81 หมู่ 1 ต.พานทอง อ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร แฟนของผู้เสียชีวิตที่อยู่ในเหตุการณ์ให้การด้วยความตกใจว่า ก่อนเกิดเหตุเลิกจากงานรับจ้างก่อสร้าง ขับรถจักรยานยนต์ไปรับแฟนสาวที่หน้าร้านสะดวกซื้อ จากนั้นก็ขับรถจักรยานยนต์มากันคนละคัน โดยแฟนสาวขับรถจักรยานยนต์นำหน้ารถของตน ระหว่างทางรถพ่วงบรรทุกอ้อยขับแซงรถสิบล้อบรรทุกอ้อยอีกกัน แต่แซงไม่พ้นจึงชนรถจักรยานยนต์ของแฟนสาวอย่างแรง ทำให้รถจักรยานยนต์ไปซุกอยู่ใต้ท้องรถพ่วง ร่างถูกทับ ศีรษะขาดทันที

ทางด้าน นายอนุชา น้อยฉลาด คนขับรถพ่วงบรรทุกอ้อยอ้างว่า ได้ไปขึ้นอ้อยจากอำเภอไทรรงาม เพื่อนำมาส่งที่โรงงานน้ำตาล เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเห็นรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คัน ขับหยอกล้อกัน แซงกันไปแซงกันมา จนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตเสียหลักพุ่งมาชนหน้ารถพ่วงบรรทุกอ้อย เป็นเหตุให้เสียชีวิต

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจดูที่เกิดเหตุแล้ว ได้ให้อาสาสมัครกู้ภัยสว่างกำแพงเพชร นำศพส่งโรงพยาบาลกำแพงเพชร ให้แพทย์ชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะให้ญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป ส่วนคนขับรถพ่วงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวไปทำการสอบสวนบันทึกคำให้การดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนใครผิดใครถูกจะต้องให้ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานตรวจที่เกิดเหตุ และร่องรอยการชนอีกครั้ง