จับสึกพระค้ายาบ้า อ้างหาเงินพัฒนาวัดใน อ.ทุ่งเขาหลวง

ร้อยเอ็ด - แผนปฏิบัติการ “กวาดบ้านล้างเมือง 101” ประสบผลสำเร็จ ล่าสุด จับ 3 ผู้ต้องหาค้ายาบ้า เผย 1 ในนั้นเป็นพระในพื้นที่ อ.ทุ่งเขาหลวง อ้างหาเงินพัฒนาวัดปลูกป่าฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม

วันนี้ (20 ก.พ.) จากแผนปฏิบัติการ “กวาดบ้านล้างเมือง101” ของ ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ได้สั่งการให้ชุดเคลื่อนที่เร็ว ร้อย บก.บร.อส.จว.ร้อยเอ็ด อำนวยการโดยนายสุริยะ วิริยะสวัสดิ์ ป้องกันจังหวัดร้อยเอ็ด สนธิกำลังกับ ชปส.ภ.จว.ร้อยเอ็ด โดย พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนปราณีต ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด กองร้อย อส.อ.เมืองร้อยเอ็ดที่ 1 โดย นายสุรพงษ์ สายโอภาส นายอำเภอเมืองร้อยเอ็ด กอ.รมน.จว.ร้อยเอ็ด และเจ้าหน้าที่ทหารจังหวัดทหารบกร้อยเอ็ด

ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวผู้ต้องหา 3 คน คือ นายเอ๋ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ชาวบ้าน อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด พร้อมของกลางยาบ้า 95 เม็ด จึงขยายผลผู้ต้องหารับสารภาพให้การว่า รับยามาจากพระสันติ หรือนายสันติ โพธิชาราช อายุ 29 ปี เป็นพระลูกวัดอุดรจานเหนือ อ.ทุ่งเขาหลวง จ.ร้อยเอ็ด จึงได้จับกุมตัวโดยผู้ต้องหารับสารภาพต่อชุดจับกุม จึงนำตัวไปสึก และทำการสอบสวนขยายผล

ต่อมา ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้เก็บยาบ้าที่เหลือไว้ที่ นายเอกชัย แสงงาม อายุ 22 ปีเลขที่ 289 ม.14 ต.ดงลาน อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด จึงได้จับกุมตัว และตรวจค้นพบยาบ้า 3,740 เม็ด รวมของกลาง3,835 เม็ด นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไปในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

นายสันติ (พระสันติ) โพธิชาราช อายุ 29 ปี ที่ถูกจับกุมได้คาผ้าเหลืองถูกนำไปสึกจากพระ ให้การว่า ตนเองบวชที่วัดดังกล่าวมา 1 ปีเศษแล้ว ยอมรับว่าได้ค้ายาบ้าโดยรับหน้าที่โดยตรงเป็นผู้ประสานการสั่งยาจากประเทศเพื่อนบ้านมาจำหน่ายในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด กับพวกอีกคน 2 จริง โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เป็นคนจำหน่ายส่งยาให้แก่ลูกค้า และนายเอกชัย แสงงาม ทำหน้าที่โอนเงิน จ่ายค่ายาไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นต้นตอ

การขายยาบ้าของตนเจ้าอาวาสวัดไม่ทราบเรื่อง ส่วนแบ่งที่ได้จากการขายยาตนมอบให้แก่เจ้าอาวาสวัดเพื่อทำการพัฒนาวัด และส่วนหนึ่งใช้ปลูกต้นไม้ ปลูกป่า เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อม และพื้นที่ป่าให้แก่วัดเพื่อเป็นการตอบแทน

ด้าน พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนปราณีต ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า จากข้อมูลของตำรวจทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับญาติที่เป็นผู้ต้องหาในเรือนจำ และร่วมกันค้ายาเพื่อที่จะนำมายื่นประกันตัว และให้ความช่วยเหลือผู้ต้องหาที่อยู่ในเรือนจำ แต่หนีไม่พ้นมือเจ้าหน้าที่และถูกจับได้ในที่สุด