พระนครศรีอยุธยา- แก๊งมิจฉาชีพอาละวาดในกรุงเก่า อ้างเป็นนายหน้าที่ดินวางแผนสุดเนียนหลอกยายวัย 70 ปี นั่งรถไปหาเจ้าของที่ดิน ก่อนหลอกให้ยายหลงเชื่อถอนเงินจากบัญชีธนาคารให้ 1 แสนบาท หลบหนีลอยนวล
วันนี้ (19 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีชาวบ้านใน ต.แคออก อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกแก๊งมิฉาชีพอ้างเป้นนายหน้าที่ดินเข้ามาตีสนิทก่อนหลอกให้ถอนเงินในบัญชี จำนวน 100,000 บาท ให้แล้วเชิดเงินหนี จึงเดินทางไปตรวจสอบพบ นางจำรุญ บำรุงญาติ อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 ม.3 ต.แคออก อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมญาติ และเพื่อนบ้านนั่งอยู่ พร้อมนำสมุดบัญชีที่เพิ่งถอนเงินจนเกลี้ยงให้แก่ผู้สื่อข่าวดู
ทั้งนี้ นางจำรุญ กล่าวว่า ช่วงหลายวันก่อนขณะที่ตนกำลังตัดกล้วยอยู่ที่สวน มีชายขับรถยนต์กระบะ 4 ประตูสีขาว เข้ามาพุดคุยติดต่อขอซื้อกล้วย จำนวน 1 เครือ และบอกว่าวันที่ 16 ก.พ.จะเข้ามาซื้ออีก 2 เครือ ให้เก็บเอาไว้ด้วย เมื่อถึงวันที่ 16 ก.พ.ชายคนดังกล่าวได้มาพร้อมกับคนในรถอีก จำนวน 3 คน มาซื้อกล้วย และบอกว่าวันนี้จะมาติดซื้อที่ของ นายสมชาย อยู่แถววัดป้อมแก้ว แต่ไปไม่ถูก
พร้อมกับถามตนว่ารู้จักหรือไม่ ตนจึงบอกไปว่าไม่รู้จัก จากนั้่นคนร้ายได้บอกว่านัดกับนายสมชาย เอาไว้ และขอร้องให้ตนช่วยพาไปที่วัดป้อมแก้ว ตนจึงได้ขึ้นรถยนต์กระบะไปด้วย เมื่อใกล้ถึงวัดป้อมแก้ว พบเห็นหญิงสาวอยู่ริมถนน คนร้ายได้จอดสอบถามว่ารู้จัก นายสมชาย หรือไม่ หญิงสาวได้บอกว่า นายสมชาย เป็นลุง จึงได้ขึ้นรถ และพาไปที่นาพบชายอีก 1 คน เดินอยู่กลางทุ่งนา จึงได้จอดรถ และมีการพูดคุยติดต่อขอซื้อที่นากัน 25 ไร่ 1 งาน ราคาไร่ละ 400,000 บาท
ระหว่างนั้นคนร้ายได้โทรศัพท์หาหญิงสาวอีกคนหนึ่ง ซึ่งเรียกกันว่าเจ๊ ว่าพบเจ้าของที่แล้วเขาขายในราคาไร่ละ 600,000 บาท เวลาไม่นานมีหญิงสาวแต่งกายดี ขับรถเบนซ์มาพร้อมกับนำเงินสดที่อยู่ในกระเป๋าออกมาโชว์จำนวนมาก และมีการพูดคุยเจราจาตกลงซื้อขายที่กัน เตรียมที่จะพากันไปโอนเงิน ชายที่อ้างเป็นเจ้าของที่นา บอกว่า ที่นาบางส่วนได้เอาไปจำนองไว้ 1 ล้านกว่าบาท ชายในรถได้หยิบสมุดธนาคารขึ้นมาเปิดดูบอกว่าเงินในบัญชีไม่พอ และหันมาสอบถามตนว่ามีเงินหรือไม่ ขอยืมไปไถ่ที่นาก่อนแล้วจะนำเงินมาให้ พร้อมกับส่วนแบ่งส่วนต่างที่ขายที่นาให้ 2,800,000 บาท
นางจำรูญ กล่าวว่า ระหว่างนั้นตนรู้สึกงง และหลงเชื่อสถานการณ์ตอนนั้นมาก จึงได้พากลุ่มคนร้ายไปเอาสมุดบัญชีถอนเงินที่ฝากไว้กับธนาคารธนชาติในตลาดบ้านแพน อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยคนร้ายจอดรถรออยู่ด้านหน้าธนาคาร หลังจากที่ถอนเงินให้คนร้ายแล้วได้ขับรถมาส่งที่ทางเข้าบ้าน พร้อมกับบอกว่า หลังจากโอนที่ขายที่เสร็จแล้ววันรุ่งขึ้นจะนำเงินสดมาให้ 2 ล้านบาท
แต่ตนรอจนถึงวันนี้แล้วกลับไร้วี่แว จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.สมยศ คลังเงิน ร้อยเวร สภ.เสนา ไว้เป็นหลักฐานให้ช่วยติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี รู้สึกเสียใจ และเสียดายเงินมาก เป็นเงินที่เก็บออมทำสวนกล้วยมาทั้งชีวิตไม่น่าจะมาหลอกคนแก่ได้เลย
