เพชรบุรี - ผบช.ภาค 7 และ ผบก.เพชรบุรี พร้อมกำลังตำรวจคุมตัวหาตกรโหดฆ่า 3 ศพ แม่ยาย-เมีย-หลาน มาแถลงข่าวหลังจับกุมตัวได้ขณะกบดานอยู่ที่อุบลฯ ผู้ต้องหารสารภาพทำไปเพราะหึงหวงเมียที่ชอบเล่นโทรศัพท์มือถือคุยไลน์กับชายอื่น จนเกิดทะเลาะวิวาทกัน และท้าให้เลิก
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (19 ก.พ.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายโกศล หรือนัย สุวรรณวงศ์ อายุ 50 ปี ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นางอรอุมา ชมพูพาน ภรรยา นางอู่ หมวกผึ้ง แม่ยาย และนายฐาปนา ปั่นทอง หลานชายเสียชีวิตทั้งหมด 3 ศพ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 ก.พ.58 ที่ผ่านมา ภายหลังก่อเหตุแล้วได้หลบหนีไปจนกระทั่งเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะกบดานอยู่ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี มาแถลงข่าว
ทั้งนี้ พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และ พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี ได้ร่วมกันแถลงข่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กองบังคับการตำรวจสืบสวนภูธรภาค 7 จึงลงพื้นที่ทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายโกศล หรือนัย สุวรรณวงศ์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 ซอยทานสัมฤทธิ์ ตำบลท่าทราย อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นสามีของผู้เสียชีวิต
ทราบว่า นายโกศล ผู้ก่อเหตุ และนางอรอุมา ผู้เสียชีวิตได้อยู่กินเป็นสามีภรรยากันได้ประมาณ 2 เดือน ขณะที่ใช้ชีวิตร่วมกัน นายโกศล มีความหึงหวงที่ นางอรอุมา ชอบเล่นโทรศัพท์มือถือ คุยโปรแกรมไลน์กับชายอื่น โดยเกิดการทะเลาะวิวาทกันอยู่หลายครั้ง
จนวันเกิดเหตุขณะที่ นายโกศล ผู้ต้องหาเดินทางเข้ามาที่บ้านพบ นางอรอุมา ผู้เสียชีวิตคุยโทรศัพท์อยู่ จึงได้มีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันอีก โดย นางอรอุมา ผู้เสียชีวิตบอกว่าถ้าไม่พอใจก็เลิกกันไป ทำให้นายโกศล เกิดความโกรธชักอาวุธปืนที่นำติดตัวมาด้วยยิงนางอรอุมา เสียชีวิต
โดยขณะนั้นมี นางอู่ หมวกผึ้ง แม่ยาย และนายฐาปนา ปั่นทอง หลานชายเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด นายโกศล จึงได้ใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันยิง นางอู่ และนายฐาปนา เสียชีวิต และหันกระบอกปืนไปทาง น.ส.กรรณิการ์ ปั่นทอง แต่ น.ส.กรรณิกา ได้ร้องขอชีวิตไว้ นายโกศล จึงไม่ยิงแต่ได้กระชากสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทไป
หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานกำลังตำรวจพื้นที่เข้าทำการจับกุมตัว โดยจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตนเองเป็นผู้ก่อเหตุในครั้งนี้จริง สาเหตุเพราะความหึงหวงที่ภรรยาชอบคุยโทรศัพท์ และเล่นโปรแกรมไลน์กับชายอื่น
นายโกศล สุวรรณวงศ์ ผู้ต้องหาเปิดเผยว่า ที่ลงมือก่อเหตุเพราะหึงหวงนางอรอุมา ที่ชอบโทรศัพท์ และคุยโปรแกรมไลน์กับชายอื่น โดยในวันที่เกิดเหตุตนได้มีปากเสียงกันกับนางอรอุมา และเกิดความโกรธมาก จึงใช้อาวุธปืนยิง นางอรอุมา เสียชีวิต จากนั้นได้ยิงแม่ยาย และหลายชายเสียชีวิต และการรับสารภาพในครั้งนี้ตนไม่ได้ถูกบังคับ
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า นายโกศล สุวรรณวงศ์ เคยมีประวัติอาชญากรรมหลายคดี เช่น วิ่งราวทรัพย์ ฉ้อโกงทรัพย์ และยักยอกทรัพย์ ก่อนที่จะได้มาลงมือก่อเหตุครั้งล่าสุดนี้ โดยได้แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน พยายามฆ่าผู้อื่น ชิงทรัพย์ และมีอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครอง
หลังจากการแถลงข่าวได้มีกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตประมาณ 10 คน เดินทางมามอบกระเช้าของขวัญเพื่อแสดงความขอบคุณในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาในการติดตามจับกุมตัวเพียง 4 วัน ก็สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้