ศูนย์ข่าวศรีราชา - ย่าบุกร้องสื่อ และเทศบาลบางพระ ขอภาพกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน หลังหลานสาวหายตัวออกจากบ้านนานสัปดาห์ แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และร้องศูนย์ดำรงธรรมแล้ว ยังไม่มีวี่แวว
วันนี้ (16 ก.พ.) ที่เทศบาลตำบลบางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นางธนาภา สวัสดิ์วารี อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ 3 ชายทะเลบางพระ ได้เข้าพบกับ นายสมเจตน์ เกตุวัตถา นายกเทศมนตรีตำบลบางพระ เพื่อประสานขอดูภาพกล้องวงจรปิดของเทศบาล ที่ติดไว้บริเวณหน้าวัดหลวงบางพระวรวิหาร ถนนสุขุมวิท หลัง ด.ญ.เพ็ญพิสุทธิ์ รุ่งสอาด อายุ 13 ปี หลานสาวหายออกจากบ้านตั้งแต่เวลา 02.52 น. วันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา และได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ศรีราชา และร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมอำเภอศรีราชาแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
นางธนาภา กล่าวว่า สาเหตุที่มาเทศบาลเนื่องจากต้องการขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด เพราะในวันที่หลานสาวหายไปนั้น นายวรวิทย์ พงษ์ศิริ อายุ 18 ปี พนักงานร้านเกมที่บ้านอยู่ใกล้กัน ได้ออกมาซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ และเห็นหลานสาวของตนยืนอยู่ข้างตู้โทรศัพท์หน้าวัดหลวงบางพระ โดยแต่งชุดนักเรียน และมีเสื้อแจ็กเกตสวมทับ หลังจากนั้น ก็มีชายวัยรุ่นขับรถจักรยานยนต์มารับ และขับออกไปอย่างรวดเร็ว จึงขอให้เทศบาลช่วยหาภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อทราบลักษณะของผู้ต้องสงสัย และลักษณะของรถจักรยานยนต์เพื่อเป็นหลักฐานในการติดตามหลานสาวที่หายตัวไปในครั้งนี้
“วันเกิดเหตุหลานสาวบอกว่าจะไปโรงเรียนเร็วขึ้น แต่หากย่าไม่เจอก็ให้ฝากสตางค์ค่าขนมกับเพื่อนข้างบ้านที่อยู่โรงเรียนเดียวกันด้วย เมื่อไปหาที่โรงเรียนก็ทราบว่า ไม่ได้มาโรงเรียน คาดว่าได้นัดแนะกับชายคนดังกล่าวไว้แน่นอน และหวั่นจะได้รับอันตราย หรือถูกล่อลวงไปในทางที่ไม่ดี”
นางธนาภา กล่าวว่า ที่ผ่านมาประมาณ 1 เดือนเศษ มีชายหนุ่มที่บ้านอยู่บริเวณขอบอ่างบางพระมาชอบพอหลานสาว แต่ตนเห็นไม่ว่าเหมาะสมจึงกีดกัน และไม่ให้ทั้ง 2 คนติดต่อกันอีกเลย นอกจากนั้น ได้เดินทางไปที่บ้านของฝ่ายชาย และได้ไปพูดคุยกับพ่อแม่ของเด็กชายแล้ว ซึ่งก็รับปากว่าจะไม่ให้ลูกชายมายุ่งเกี่ยวอีกต่อไป แต่หลังหลานสาวหายตัวไปตนได้เดินทางไปยังบ้านของเด็กคนดังกล่าวเพื่อไปสอบถามพ่อแม่ว่า ลูกชายไปไหน ทางบ้านก็แจ้งว่าออกจากบ้านไปทำธุระที่ไหนไม่รู้ และยังไม่กลับบ้านเลย ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นคนเดียวกับชายหนุ่มที่ขับรถจักรยานยนต์ไปรับหลานสาว แต่ก็ไม่มีหลักฐานที่จะไปดำเนินการอะไรได้ในขณะนี้
“เป็นห่วงหลานสาวคนนี้มาก เพราะรักเหมือนลูกสาว พ่อแม่เขาเสียชีวิตไปแล้ว ผ่านไปเกือบ 1 สัปดาห์แล้วไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร ไม่ติดต่อกลับมา จึงขอให้นักข่าว และหน่วยงานที่รับผิดชอบช่วยติดตามหลานสาวคนนี้ด้วย”