อุบลราชธานี - ชาวบ้านสองตำบลในอำเภอวารินชำราบยื่นหนังสือร้องผู้ว่าฯ ประสานกรมที่ดินเพิกถอนนายทุนออกโฉนดทับที่ทำกินกว่า 200 ไร่ หลังศาลปกครองและดีเอสไอมีมติให้กรมที่ดินใช้มาตรา 61 เพิกถอน แต่กรมที่ดินยังเพิกเฉยไม่ดำเนินการตามคำสั่ง
วันนี้ (16 ก.พ.) ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี นายวิทยา แก้วบัวขาว แกนนำชาวบ้าน ต.หนองกินเพล และ ต.บุ่งหวาย อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ซึ่งต่อสู้กับนายทุนที่ออกโฉนดที่ดินทับที่ทำกินของชาวบ้านมานานกว่า 30 ปี นำตัวแทนชาวบ้านยื่นหนังสือต่อนายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัด ให้นำเรื่องเข้าที่ประชุมจังหวัด เพื่อให้กรมที่ดินเพิกถอนโฉนดที่นายทุนออกโดยมิชอบ เพื่อคืนที่ดินกว่า 200 ไร่ให้กลับมาเป็นของชาวบ้านอย่างสมบูรณ์
โดยชาวบ้านได้นำเอกสารของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ได้รับเรื่องเป็นคดีพิเศษ และมีมติให้กรมที่ดินถอดถอนโฉนดตามมาตรา 61 ประมวลกฎหมายที่ดิน ตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2553 เช่นเดียวกับศาลปกครองก็มีคำสั่งให้กรมที่ดินถอดการออกโฉนดของนายทุนด้วย
แต่จนถึงปัจจุบันกรมที่ดินยังไม่ดำเนินการ ทำให้นายทุนที่ฟ้องร้องชาวบ้านข้อหาบุกรุก บังคับให้ชาวบ้านที่เป็นเจ้าของที่ดินออกจากที่ทำกินของตนเองไปแล้วหลายราย จึงมาร้องเรียนให้จังหวัดสั่งกรมที่ดินเร่งดำเนินการตามที่ดีเอสไอและศาลปกครองมีคำสั่งมาด้วย
ซึ่งนายประทีปได้รับเอกสารจากชาวบ้านและขอเวลาตรวจสอบความถูกต้อง ก่อนจะแจ้งผลการดำเนินงานให้ชาวบ้านทราบเป็นระยะต่อไป
สำหรับที่ดินแปลงดังกล่าวออกโฉนดทับที่ทำกินของชาวบ้านหลายพันไร่ตั้งแต่เมื่อกว่า 30 ปีก่อน ต่อมาชาวบ้านที่อยู่อาศัยทราบเรื่องในปี 2536 จึงได้ทำการต่อสู้เพื่อเอาที่ดินคืน แต่ก็ถูกนายทุนฟ้องร้องต่อศาล ทำให้ชาวบ้านแพ้คดี ชาวบ้านบางส่วนยอมนำเงินมาซื้อที่ดินของตนเองคืนจากนายทุนเพื่อให้มีที่ดินทำกิน แต่มีชาวบ้านอีกกว่า 20 รายไม่ยอม ได้ต่อสู้เรียกร้องไปยังหน่วยงานต่างๆ กระทั่งดีเอสไอและศาลปกครองพบความผิดปกติเข้ามาตรวจสอบ และสั่งให้กรมที่ดินเพิกถอนการออกโฉนดในที่ดินของชาวบ้านโดยมิชอบดังกล่าว
แต่กรมที่ดินได้อุทธรณ์คำสั่งของศาลและดีเอสไอ และไม่ยอมดำเนินการใดๆ ทำให้ชาวบ้านมาร้องต่อทางจังหวัดให้สั่งกรมที่ดินดำเนินการในวันนี้
