พระนครศรีอยุธยา - ตำรวจพระนครศรีอยุธยา ตามจับกุมหนุ่มโรงงานหึงโหด แทงนักวิชาการเกษตรอำเภอวังน้อยเสียชีวิตได้แล้ว พร้อมคุมตัวไปทำแผนประคำรับสารภาพ
จากกรณีว่าที่ ร.ต.อำนาจ พันธ์แจ่ม อายุ 32 ปี นักวิชาการการเกษตร สำนักงานเกษตรอำเภอวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ขับรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ สีขาว หมายเลขทะเบียน กธ 1962 พระนครศรีอยุธยา นัดพบพนักงานโรงงานสาวหน้าบริษัท เบสเท็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ หมู่ 5 ต.คานหาม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา พนักงานสาวโรงงานได้ออกมาพูดคุยแล้วมีหนุ่มพนักงานติดตามออกมาพูดคุยด้วย แล้วเกิดการโต้เถียงกันก่อนที่พนักงานหนุ่มได้ใช้ของมีคมแทง ว่าที่ ร.ต.อำนาจ เข้าที่บริเวณลำคอ และบริเวณชายโครงจนไส้ทะลัก จากนั้นได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ก่อนที่ ว่าที่ ร.ต.อำนาจ จะขับรถยนต์กระบะจนเสียหลักพุ่งชนกำแพงของโรงงานจนเสียหาย เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น
ต่อมา เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (13 ก.พ.) พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ภัทรภัทร นุชยวง ผกก.สส. พ.ต.ท.พิชา รุจินาม รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ขวัญชัย เผือกพูนผล รอง ผกก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายธเนศ ผลงาม อายุ 28 ปีอยู่บ้านเลขที่ 59/1 ม.1 ต.หมื่นศรี อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณถนนด้านหน้าบริษัท เบสเท็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ หมู่ 5 ต.คานหาม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากจับกุมได้ก่อนหน้านี้
นายธเนศ ให้การรับสารภาพว่า ตนคบหาอยู่กับ น.ส.หัทยา พงษ์สวัสดิ์ อายุ 22 ปี แฟนสาวมาได้ประมาณ 9 เดือน และเพิ่งจะเข้ามาทำงานที่โรงงานได้ไม่นาน ต่อมา ตนจับได้ว่าผู้ตายได้มาติดพันกับแฟนของตน และมีการโทรศัพท์คุยกัน ตนได้เคยโทร.ไปขอร้องให้ผู้ตายเลิกติดต่อกับแฟนของตนเองมาแล้ว แต่ผู้ตายไม่ยอมเลิกรา และยังมีการนัดเจอกันอีก
จนมาวันเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังจะขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อกลับบ้านพัก ได้พบผู้ตายขับรถยนต์กระบะมาจอดที่หน้าโรงงาน จึงเข้าไปพูดคุยกับผู้ตายว่า เป็นถึงข้าราชการยังมายุงกับลูกเมียของชาวบ้านอีก หลังจากนั้นจึงได้เกิดการโต้เถียงกันขึ้น ตนจึงใช้อาวุธมีดแทงที่บริเวณลำตัว และลำคอ จากนั้นได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป โดยได้พาแฟนสาวไปด้วย และนำไปปล่อยทิ้งไว้ที่บริเวณหน้าตลาดรังสิต ส่วนตนหลบหนีไปอยู่กับญาติที่ จ.ระยอง จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว
ด้าน น.ส.หัทยา พงษ์สวัสดิ์ กล่าวว่า ตนรู้จักกับผู้ตาย และพูดคุยกันผ่านระบบบีทอล์กได้ประมาณ 2 เดือน และนัดพบกันที่โรงงานได้ประมาณ 3 ครั้งแล้ว และเคยถูกแฟนจับได้ว่ามีการติดต่อกับผู้ตาย จึงถูกห้ามไม่ให้ติดต่อกันอีก
“ในวันเกิดเหตุเห็นรถยนต์กระบะของผู้ตายมาจอดหน้าโรงงานอีก จึงได้โทรศัพท์บอกให้กลับไปแต่ผู้ตายไม่ยอมกลับ จนนายธเนศ จับได้จึงได้เข้าไปต่อว่า และโต้เถียงกัน โดยช่วงขณะที่มีการใช้อาวุธมีดแทงกันนั้นตนไม่เห็นเหตุการณ์ แต่ได้ยินเสียงคล้ายชกต่อยกันจึงหันมาดู แต่กลายเป็นว่าถูกมีดแทงไปแล้ว”
