ชาวนาชัยนาทปลูกถั่วเขียวแทนนาปรัง ครวญเจอพิษภัยแล้งถั่วใช้น้ำน้อยยังขาดน้ำแห้งตาย

ชัยนาท - ชาวนาในพื้นที่อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท กว่า 400 ราย ที่หันมาปลูกถั่วเขียวแทนนาปรัง ครวญเจอพิษภัยแล้งถั่วใช้น้ำน้อยยังขาดน้ำแห้งตาย

วันนี้ (12 ก.พ.) ชาวนาในพื้นที่อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท กว่า 400 ราย ที่หันไปปลูกถั่วเขียวพืชใช้น้ำน้อยแทนการปลูกข้าวนาปรัง บนพื้นที่ 4,950 ไร่ ตามโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ปี 2557/2558 ขณะนี้กำลังได้รับความเดือดร้อนจากสภาพอากาศที่แห้งแล้ง และไม่มีน้ำเพาะปลูก หลังชลประทานหยุดการส่งน้ำให้เกษตรกรตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2557 ทำให้น้ำในคลองชลประทานแห้งขอด

ขณะที่สภาพอากาศในจังหวัดชัยนาท เริ่มมีความแห้งแล้งมากขึ้น ส่งผลให้ต้นถั่วเขียวที่กำลังออกฝักใกล้เก็บเกี่ยวอยู่ในสภาพที่กำลังขาดน้ำแห้งตาย มีพื้นที่ได้รับความเสียหายแล้ว จำนวน 750 ไร่

นางประนอม อ่อนแถม อายุ 47 ปี เกษตรกรหมู่ที่ 10 ต.แพรกศรีราชา อ.สรรคบุรี กล่าวว่า ได้ปลูกถั่วเขียวเนื่องจากเห็นเพื่อนบ้านปลูก และได้ผลผลิตดี จึงอยากปลูกบ้างในช่วงที่ไม่มีน้ำทำนาปรัง เห็นว่าถั่วเขียวเป็นพืชใช้น้ำน้อย ไม่ต้องลงทุนมาก จึงได้ลงมือปลูกในพื้นที่นา 17 ไร่ ลงทุนไป 20,000 บาท คาดว่าจะเก็บผลผลิตขายได้ประมาณ 30,000 บาท

แต่เนื่องจากเป็นการปลูกครั้งแรกทำให้ยังไม่มีประสบการณ์ ประกอบกับสภาพอากาศมีความแห้งแล้งมาก และไม่มีน้ำใช้เพาะปลูก เพราะในคลองชลประทาน หรือตามบ่อธรรมชาติไม่มีน้ำเหลืออยู่เลย จะอาศัยน้ำค้างยามเช้าให้ถั่วเติบโต โดยไม่ต้องรดน้ำก็ไม่มี ดินจึงไม่มีความชุ่มชื้น ทำให้ถั่วไม่เจริญเติบโตให้ผลผลิตได้น้อย เก็บขายได้เงินเพียงแค่ 8,500 บาทเท่านั้น

นางสมพิศ มีเดช อายุ 58 ปี เกษตรกรหมู่ 1 ต.บางขุด อ.สรรคบุรี กล่าวว่า หลังจากที่ไม่มีน้ำทำนาปรัง จึงหันมาปลูกถั่วเขียว จำนวน 4 ไร่ ตอนที่เริ่มปลูกช่วงเดือนพฤศจิกายนถั่วเขียวเจริญเติบโตงอกงามดี แต่มาช่วงเดือนนี้เจอสภาพอากาศร้อนแห้งแล้งมากขึ้น ทำให้ต้นถั่วเขียวหงิกงอใบแห้ง ดอกแห้งเพราะขาดน้ำ ผลผลิตที่คาดว่าจะเก็บได้มากกว่า 300 กิโลกรัม ตอนนี้เหลือไม่ถึง 100 กิโลกรัม