ทนไม่ไหว! พระถึงกับตบะแตก ประเคนหมัดใส่หน้ามือเผาเมรุ-กุฏิวอด

อุตรดิตถ์ - ตำรวจหิ้วอดีตพระลูกวัดหนองกลาย มือเผากุฏิ-เมรุเผาศพวอดทำแผน ชาวบ้านรุมสาปแช่งกว่า 200 คน เจ้าตัวยังไม่รู้สำนึก ยิ้ม-หัวเราะระรื่น ทำพระสงฆ์วัดเดียวกันตบะแตก ประเคนหมัดใส่หน้าโครมใหญ่ ต้องจับแยกกันวุ่น

บ่ายวันนี้ (12 ก.พ.) พ.ต.อ.ดิษยเดช พัทรภูวดล ผกก.สภ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ พร้อมชุดควบคุมฝูงชนกว่า 50 นาย นำตัวนายชัยสิทธิ์ อุ่นมาก หรือท็อป อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ 1 ต.ป่าเซ่า อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ผู้ต้องหาคดีเผากุฏิวัดหนองกลาย หมู่ 5 ต.ป่าเซ่า มาชี้จุดเกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ

โดยประชาชนกว่า 200 คนที่มามุงดูเหตุการณ์ตะโกนสาปแช่งด้วยความโกรธแค้น แต่นายชัยสิทธิ์กลับไม่แสดงอาการใดๆ กับสิ่งที่ได้กระทำไป ทั้งยังยิ้มและหัวเราะอยู่ตลอดเวลาขณะทำแผนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

แต่ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำตัวนายชัยสิทธิ์กลับ สภ.เมือง ปรากฏว่าพระสงฆ์วัดหนองกลายรูปหนึ่ง ซึ่งเป็น 1 ใน 4 รูปที่จำวัดในกุฏิที่ถูกเผาในคืนเกิดเหตุ เดินปะปนอยู่ในกลุ่มตำรวจชุดควบคุมฝูงชนและสื่อมวลชน ได้ฉวยโอกาสชกเข้าที่ใบหน้านายชัยสิทธิ์อย่างแรง 1 หมัด จนเจ้าหน้าที่ต้องนำตัวพระสงฆ์รูปดังกล่าวแยกออกมา และรีบนำตัวนายชัยสิทธิ์ขึ้นรถกลับทันที

พ.ต.อ.ดิษยเดชกล่าวว่า นายชัยสิทธิ์เพิ่งพ้นโทษมาได้เพียง 5 เดือนในคดีลักทรัพย์ จากนั้นก็มาเป็นอาสาสมัครกู้ภัยแห่งหนึ่งใน จ.อุตรดิตถ์ มีวิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง เคยแจ้งเหตุหลายต่อหลายครั้ง เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบก็ไม่พบเหตุเกิดขึ้นจริง

กระทั่งวันที่ 4 ก.พ.ได้ก่อเหตุเสียเอง โดยการจุดไฟเผาเมรุ และกุฏิวัดหนองกลาย แต่เพลิงเกิดลุกไหม้อย่างรุนแรงไม่สามารถควบคุมได้ นายชัยสิทธิ์ใช้วิทยุในมือของตนเองแจ้งเหตุไปยังศูนย์กู้ภัย จากนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ระดมนำรถดับเพลิงมาช่วยกันระงับเหตุ จนนำไปสู่การสืบสวนจับกุมตัวได้ในที่สุด