ถึงคราวเคราะห์ร้อนเงินจำนำรถหรู เจอสาวแสบตุ๋นเสียทั้งรถเสียทั้งเงิน

ร้อยเอ็ด - เคราะห์ซ้ำกรรมซัด สามีป่วยหาเงินรักษา นำรถหรูไปจำนำ 60,000 บาท แต่กลับโดนตุ๋นเปื่อย ถูกสาวแสบหลอกให้เงินจำนำแค่ 25,000 บาทแล้วเชิดรถหนี ทั้งหลอกให้โอนเงินกลับจะคืนรถให้ สุดท้ายเสียทั้งรถเสียทั้งเงิน โร่พึ่งตำรวจ พบประวัติสาวแสบโชกโชนมีคดีเก่าเชิดรถมาแล้วถึง 15 คดี

วันนี้ (11 ก.พ. 58) นางทิพย์วัลย์ เอกทัศน์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/1 หมู่ที่ 7 ต.ธงธานี อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด หอบหลักฐานการเป็นเจ้าของรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน กจ 4363 ร้อยเอ็ด พร้อมเอกสารสัญญากู้เงินจากนางนิธิกาล อัครพิชานันท์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ที่ 5 บ้านโนนเดื่อ ต.มะอึ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด พร้อมหลักฐานการโอนเงิน เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.นพรัตน์ หลวงสนาม พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองร้อยเอ็ด เพื่อให้ติดตามตัวมาดำเนินคดี เนื่องจากมีลักษณะหลอกลวงและต้มตุ๋น เป็นเหตุให้ตนเสียทรัพย์

นางทิพย์วัลย์ เอกทัศน์ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ต้นเหตุมาจากการที่ตนเดือดร้อนเงิน ต้องการเงินไปรักษาอาการป่วยของสามี เมื่อวันที่ 29 มกราคม 58 ตนได้ติดต่อกับนางนิธิกาล อัครพิชานันท์ ที่รับจำนำรถยนต์ รู้จักจากเพื่อน โดยจำนำรถในราคา 60,000 บาท และทำสัญญากู้ยืมเงิน แต่ปรากฏว่าหลังจากทำสัญญาแล้วว่าจะนำเงินมาให้วันรุ่งขึ้น แต่ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นไม่นำเงินมาให้ตามสัญญา แต่กลับพาคนขับรถไปจากบ้านทั้งที่ยังไม่จ่ายเงินตามสัญญา

ตนได้ติดตามทวงถามเงิน 60,000 บาท แต่โอนเงินมาให้เพียง 25,000 บาทเท่านั้น เมื่อทวงถามกลับบอกว่ามีเงินเท่านั้น ส่วนที่เหลือขอให้รอไปก่อน และรอจนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ก็ยังไม่ได้เงินส่วนที่เหลือ จึงเห็นว่าไม่ชอบมาพากล จึงติดต่อขอรับรถคืน ปรากฏว่านางนิธิการรับปากว่าจะคืนรถให้ แต่ต้องโอนเงินไปให้คืนก่อน พร้อมค่าดำเนินการคืนรถเป็น 26,000 บาท จึงโอนให้เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา

แต่นางนิธิการกลับไม่คืนรถให้ พร้อมทั้งปิดโทรศัพท์หนี จึงรู้ว่าถูกหลอกเชิดรถยนต์หนีแน่ จึงหอบหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อนางนิธิการ หลังแจ้งความพนักงานสอบสวนแจ้งว่า รู้จักนางนิธิการ อัครพิชานันท์ เพราะมีประวัติหลอกลวงต้มตุ๋นมาแล้ว เคยก่อคดีเชิดรถยนต์ไม่จ่ายเงินในลักษณะเดียวกันนี้จำนวนมาก และมีการแจ้งความไว้มากถึง 15 คดี ซึ่งจะติดตามมาดำเนินคดีต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนประณีต ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด ซึ่งลงมาดูคดีเรื่องนี้ด้วยตนเอง กล่าวรับปากกับผู้เสียหายว่า ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนดำเนินการให้ความช่วยเหลือติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษ เบื้องต้นจะออกหมายเรียกตัวมาให้ปากคำ และให้คืนรถให้แก่ผู้เสียหาย โดยจะออกหมายเรียก 2 ครั้ง หากภายใน 2 สัปดาห์ไม่มาพบพนักงานสอบสวนจะขอให้ศาลอนุมัติออกหมายจับต่อไป