เชียงราย - ตำรวจ ป.ป.ส.ปฏิบัติการฟ้าสางที่ริมโขง ล่าสุด ยึดทรัพย์เครือข่ายม้ง 2 พี่น้อง “แซ่เติน” หัวโจกขนยาบ้า 3 ล้านเม็ด ได้ทั้งหอพัก บ้าน ที่ดิน ค่ากว่า 55 ล้าน พร้อมล่าเครือข่ายอีก 23 คน ที่ยังหนีอยู่ เผยเช้ามืดพรุ่งนี้ (11 ก.พ.) มีลุยอีก
วันนี้ (10 ก.พ.) พล.ต.ต.ประหยัชว์ บุญศรี รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง ผบก.ภ.แพร่ พ.ต.อ.จรัญฌิ์ เริงธรรม รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.วิรัช สุมนาพันธ์ รอง ผบก.ภ.จว. นายวิชัย ไชยมงคล ผอ.ป.ป.ส.ภาค 5 นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึดทรัพย์สินของเครือข่ายผู้ต้องหาคดียาเสพติด คือ นางกอยเจียว และนายสุทิวัส แซ่เติน ชาวเขาเผ่าม้ง
ประกอบด้วย เบญจวรรณ อพาร์ตเมนต์ เลขที่ 30/7-32 ถนนสันโค้งหลวง ซอย 5 ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย บ้านพร้อมที่ดินเลขที่ 300/135 ซอย 11 หมู่บ้านกุลพันธ์วิลล์ ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย และที่ดินโฉนดเลขที่ 56689 ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย
พล.ต.ต.ประหยัชว์ กล่าวว่า การตรวจยึดทรัพย์สินครั้งนี้มีขึ้นหลังจากตำรวจภูธรจัหวัดแพร่ และภาค 5 ได้จับกุม นายกรทอง สีสายเกิด และพวกรวม 9 คน ขณะขนยาเสพติดผ่านพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ พร้อมของกลางยาบ้า 3 ล้านเม็ด เมื่อวันที่ 14-15 มี.ค.57 จากนั้นเจ้าหน้าที่ทยอยยึดทรัพย์สินของขบวนการค้ายากลุ่มนี้ต่อเนื่อง
ล่าสุด ทางเลขาธิการ ป.ป.ส.ได้อนุมัติเมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา ให้ยึดทรัพย์เพิ่มเติมอีก 10 แห่ง แต่ในครั้งนี้จะยึดก่อน 3 แห่ง จากนั้นจะทยอยเข้ายึดเพื่อตรวจสอบตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ซึ่งกรณีของหอพักนี้มีมูลค่าประมาณ 25 ล้านบาท เมื่อรวมกับทรัพย์สินอีก 2 แห่ง จะมีมูลค่ารวมกันทั้งหมดประมาณ 55 ล้านบาท
ด้าน พล.ต.ต.ภาณุเดช กล่าวว่า หลังการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดรายนี้แล้ว เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนแล้วพบว่า นอกจากผู้ต้องหาทั้ง 9 คน ยังมีเครือข่ายหลบหนีหมายจับอีก 23 คน แต่ตัวการใหญ่ คือ นางกอยเจียว เงินอ่อน หรือแซ่เติน และนายสุทิวัส แซ่เติน น้องชายนางกอยเจียว ซึ่งทรัพย์สินที่ตรวจยึดทั้งหมดคือ ทรัพย์สินของทั้งคู่ โดยหอพักเป็นของนางกอยเจียว ส่วนบ้านพัก และที่ดินเป็นของนายสุทิวัส
“ตอนนี้กล่าวได้ว่า เจ้าหน้าที่ทลายเครือข่ายนี้ได้แล้วกว่า 50% แต่ยังเหลือผู้ที่หลบหนีอยู่ จึงจะหารือผู้บังคับบัญชานำปฏิบัติยุทธการฟ้าสางที่ริมน้ำโขงในภาคเหนือระหว่างวันที่ 9-11 ก.พ. ตั้งค่าหัวคนที่หลบหนีอย่างน้อยหัวละ 10,000 บาท ซึ่งเชื่อว่าบางคนยังอยู่ในไทย แต่บางส่วนอาจจะหลบหนีอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านแล้ว”