xs
xsm
sm
md
lg

ช้างป่าบุกไร่สับปะรดชาวตราดเสียหายกว่า 20 ไร่ ต้นยางโค่นกว่า 50 ต้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตราด - ช้างป่า 3 ตัว บุกไร่สับปะรดชาวตราดเสียหายกว่า 20 ไร่ ต้นยางพาราโค่นกว่า 50 ต้น ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังผลักดันช้างกลับป่า พบเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่เมากร่างไม่พอใจการไล่ช้างบุกด่าด้วยคำหยาบ

วันนี้ (9 ก.พ.) ที่ไร่สับปะรดของ นายเอี่ยมศูนย์ เลิศศรีลือชา ม.4 ต.ช้างทูน อ.บ่อไร่ จ.ตราด นายสนั่น ฉบับดี อายุ 57 ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ฝ่ายป้องกันภัยช้างป่า ต.ช้างทูน อ.บ่อไร่ จ.ตราด นายอดิศักดิ์ แหลมหลัก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.ช้างทูน และนายศักดา อินปิ่นปัก เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว ได้พาสื่อมวลชนเดินทางเข้าสำรวจความเสียหายหลังจากช้างป่า 3 ตัว ได้แก่ ช้างสีดอ ช้างน้อยหน่า และพลายชะอม ที่ลงมาจากเขาปีกกา ลงมากัดกินทำลายไร่สับปะรดกว่า 20 ไร่ และต้นยางพาราอีกกว่า 50 ต้น ได้รับความเสียหายมาตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา

นายสนั่น ฉบับดี กล่าวว่า พื้นที่ของ นายเอี่ยมศูนย์ เป็นพื้นที่ให้เช่า โดยผู้เช่าได้ปรับปรุงที่ดินจากรกร้างมาทำเป็นไร่สับปะรด โดยมีเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ พร้อมกับปลูกยางพาราแซมด้วย เมื่อสับปะรดสุกพร้อมที่จะตัดส่งขายตลาดได้นั้น ปรากฏว่า ช้างป่าทั้ง 3 ตัว อาศัยช่วงเวลากลางคืนลงมากัดกินสับปะรด พร้อมทำลายต้นยางพาราที่ปลูกไว้เสียหายเกือบทั้งสวน

ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.4 กล่าวต่อว่า ตนเอง และนายอดิศักดิ์ แหลมหลัก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ได้ร่วมกับอุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว อ.บ่อไร่ จ.ตราด พร้อมทั้งอาสาสมัครเฝ้าระวังช้างป่า อ.บ่อไร่ ได้ช่วยกันผลักดันช้างให้กลับเขาปีกกาในตลอดระยะเวลา 6 วันที่ผ่านมา โดยได้ผลัดเปลี่ยนกำลังกันเฝ้าระวัง และผลักดันแต่ก็ไม่เป็นผล ช้างป่ายังคงไม่สนใจ และยังคงกัดกินสับปะรด โดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น

โดยเมื่อคืนวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา ปรากฏว่า มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ ต.ช้างทูน ได้มาต่อว่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย และอยู่ในอาการเมาสุรา ซึ่งตนได้พยายามอธิบายจนเจ้าหน้าที่รายนี้เดินทางกลับ ท่ามกลางความไม่พอใจของชาวบ้าน และอาสาสมัครจนเกือบจะเกิดการทะเลาะวิวาทกัน

นายศักดา อินปิ่นปัก กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านแล้ว ทางอุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว ได้จัดเจ้าหน้าที่ 4 นาย ลงพื้นที่เฝ้าระวังช้างป่าทั้ง 3 ตัว อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งผลักดันช้าง โดยในตีเกราะ จุดพลุ ระเบิด ให้เสียดัง แต่ช้างทั้ง 3 ตัว ไม่มีท่าทีที่จะเกรงกลัวเสียงอย่างใด ส่วนปัญหาที่ชาวบ้าน และหน่วยงานรัฐที่เกิดปัญหากันนั้น ตนเองลำบากใจมากในการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่าย ต่างต้องการไล่ช้างออกจากพื้นที่ของตน แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ แต่กลับถูกต่อว่าด้วยคำที่หยาบคาย ซึ่งถ้าหากเป็นเช่นนี้ปัญหาการขับไล่ช้างนั้นจะเป็นไปไม่ได้เลย

นายศักดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันช้างป่าในพื้นที่ 3 ตำบล คือ ตำบลช้างทูน ตำบลสะตอ และตำบลหนองบอน มีอยู่ 20 ตัว กระจายกันออกไป แต่ส่วนใหญ่จะมีเพียง 2-3 ตัว เท่านั้นที่จะลงจากเขาลงทำลายพืชสวนของชาวบ้าน ซึ่งทางอุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว ยังคงติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดอยู่ตลอดเวลา


กำลังโหลดความคิดเห็น