บุรีรัมย์ - ล่าสุด จนท.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่บุรีรัมย์พบช้างป่าที่ถูกยิงบาดเจ็บหลังผ่านการรักษามา 3 วันออกมากินอาหารและลงแช่น้ำที่อ่างเก็บน้ำทิศตะวันตกหน่วยพิทักษ์ป่าคลองโป่งแล้ว เตรียมการรักษาขั้นที่ 2 ขณะ ตร.ยังลงพื้นที่สอบปากคำชาวบ้านและหาหลักฐานติดตามจับกุมมือปืนยิงช้างต่อเนื่อง
วันนี้ (8 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์เฝ้าติดตามอาการช้างป่า เพศผู้ อายุ 20 ปี ที่ถูกยิงบาดเจ็บ หลังทีมสัตวแพทย์ได้ฉีดยาปฏิชีวนะ ยาลดอาการอักเสบ และยาฆ่าเชื้อ เพื่อรักษาบาดแผลผ่านไป 3 วัน ล่าสุดวันนี้เจ้าหน้าที่ชุดติดตามช้างป่าที่ได้รับบาดเจ็บได้พบช้างตัวดังกล่าวออกมาลงแช่น้ำที่อ่างน้ำด้านทิศตะวันตก หน่วยพิทักษ์ป่าคลองโป่ง ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดงแล้ว ทั้งได้ออกมาหากินน้ำและอาหารใกล้บริเวณดังกล่าวด้วย
โดยพบว่าช้างกินอาหารได้เยอะและมีก้อนเนื้อตายขนาดใหญ่หลุดมาก้อนหนึ่ง บริเวณท้องที่บวมอักเสบยุบลง ในอุจจาระไม่พบเลือดปน ดูสดชื่นมากขึ้น แต่ยังมีหนองไหลออกมาจากบาดแผล
สอบถามนายสัตวแพทย์ ภัทรพล มณีอ่อน หรือ “หมอล็อต” สัตวแพทย์ประจำกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่รักษาช้างป่าตัวดังกล่าว บอกว่า จากลักษณะดังกล่าวถือเป็นสัญญาณที่ดีที่ช้างระบายหนองออกมาเองได้ เพราะหลังจากการให้ยารักษาทั้งระบบแล้วจะปล่อยให้ธรรมชาติบำบัดรักษา และหากเราสามารถควบคุมการติดเชื้อได้ก็มีความหวัง แต่ต้องเผื่อทำใจไว้ด้วย ซึ่งต่อจากนี้อีก 3 วันหากช้างไม่ล้มก็จะเริ่มเข้าสู่โปรแกรมการรักษาในขั้นตอนที่ 2
ขณะที่ พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.โนนดินแดง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีว่า ยังจัดเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่เก็บข้อมูลหลักฐานและสอบปากคำชาวบ้าน เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุยิงช้างมาดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ต้องใช้เวลาเนื่องจากกระสุนปืน ซึ่งเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ยังฝังอยู่ในตัวช้างไม่สามารถเอาออกมาได้ ซึ่งทำให้ยากต่อการหาเบาะแสและติดตามตัวผู้กระทำผิด เพราะขณะนี้ยังไม่ทราบชนิดของอาวุธปืนที่ใช้ยิงช้าง เพียงสันนิษฐานจากร่องรอยบาดแผลที่พบเท่านั้น