กาฬสินธุ์ - เกษตรกรในพื้นที่รอบเขื่อนลำปาวลดเสี่ยงปลูกพืชฤดูแล้ง คาดปีนี้แล้งอาจรุนแรงกว่าทุกปี ขณะที่สถานการณ์น้ำในเขื่อนลำปาวมีน้ำเหลืออยู่เพียงร้อยละ 48
จากการติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งขณะนี้เริ่มที่จะส่อเค้าถึงปัญหาภัยแล้งที่จะเกิดขึ้นครอบคลุมพื้นที่ 18 อำเภอ ขณะที่พื้นที่ที่อยู่ติดกับอ่างเก็บน้ำลำปาวระหว่าง อ.หนองกุงศรี กับ อ.สหัสขันธ์ พบว่าประชาชนที่อาศัยอยู่ติดกับเขื่อนลำปาวได้เลี่ยงการทำการเกษตร เพราะคาดการณ์ว่าสถานการณ์ภัยแล้งปีนี้จะรุนแรงกว่าทุกๆ ปี
ทั้งนี้ ชาวบ้านได้ลดความเสี่ยงที่จะทำเกษตรกรรมที่จะต้องลงทุนมาก รวมถึงการทำการเกษตรที่ใช้น้ำมาก โดยหันมาปลูกพืชระยะสั้น เช่น ถั่วลิสง ข้าวโพด และปลูกมันสำปะหลัง แทนการปลูกข้าวและทำสวนแตงโม
ขณะที่เจ้าของปลากระชังหลายร้อยกระชังในเขื่อนลำปาวเริ่มที่จะอพยพกระชังปลาเข้าไปในบริเวณน้ำลึกซึ่งห่างจากฝั่งกว่า 1 กม. เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะปลาช็อกน้ำตาย ที่จะเป็นความเสี่ยงขาดทุนจากภาวะภัยแล้งในปีนี้
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำในเขื่อนลำปาวขณะนี้มีปริมาณอยู่ที่ 964 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 48 แต่มีปริมาณน้ำใช้การได้อยู่ที่ร้อยละ 43 หรือ 854 ล้านลูกบาศก์เมตร
เขื่อนลำปาวมีการระบายน้ำที่ 4.77 ล้านลูกบาศก์เมตรทุกวัน เพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่เขตชลประทานกว่า 3 แสนไร่ได้ทำการเกษตรรวมถึงการทำนาปรังบางส่วน และช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามที่มีอยู่กว่า 1,000 ไร่ ในเขต ต.นาเชือก ต.เขาพระนอน และ ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์