“ผบก.ระยอง” สั่งทุกโรงพักคุมเข้มค้ามนุษย์ ต้องไม่มีต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง

ระยอง - ผบก.ระยอง มอบนโยบายการปราบปรามการค้ามนุษย์ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทุกสถานี สั่งกำชับเด็ดขาดต้องไม่มีชาวโรฮิงญาลักลอบหลบหนีเข้าเมืองในพื้นที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งไม่มีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายในภาคแรงงานกลุ่มเสี่ยง

เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (5 ก.พ.) พล.ต.ต.ชุมพล ฉันทะจำรัสศิลป์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ระยอง เป็นประธานมอบนโยบาย และแนวทางการปฏิบัติงานด้านการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ให้แก่เจ้าหน้าที่ในสังกัด ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดระยอง โดยมี พ.ต.อ.สมไทย คำวัฒน์ พ.ต.อ.สมพงศ์ ทองใบ พ.ต.อ.เสถียร บุญค้ำ รอง ผบก.ภ.จว.ระยอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจ (ผกก.สภ.) ทุกแห่งในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดระยอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ารับมอบนโยบาย

พล.ต.ต.ชุมพล กล่าวว่า สถานการณ์การค้ามนุษย์ของไทยถูกประเทศสหรัฐอเมริกาลดอันดับ และกล่าวอ้างว่ามีมาตรฐานต่ำ เหตุผลที่ถูกลดระดับ คือ การบังคับใช้กฎหมายไม่เพียงพอ การสืบสวน และดำเนินคดีล้มเหลว การทุจริตคอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่ทุกระดับ การคัดแยกไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ และการคุ้มครองแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานประมงยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ

พร้อมกล่าวหาเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตำรวจ 13 ข้อ เช่น ไม่ดำเนินคดีต่อผู้เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน เจ้าหน้าที่บางคนใช้บริการทางเพศกับเด็กที่เป็นเหยื่อค้ามนุษย์ เจ้าหน้าที่ขู่กรรโชกเอาเงิน หรือมีเพศสัมพันธ์ ขบวนการแยกเหยื่อไม่เพียงพอ ทำให้แรงงานที่ถูกจับอาจมีเหยื่อการค้ามนุษย์ปะปนไปด้วย หรือทหาร ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจเรือประมงไม่พบการค้ามนุษย์ เป็นต้น

สำหรับมาตรการเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาการปราบปรามการค้ามนุษย์ตามนโยบายของรัฐบาลในระยะเร่งด่วน จะต้องไม่มีการค้ามนุษย์ในสถานบริการ สถานประกอบการ ร้านอาหาร ร้านคาราโอเกะ โดยเฉพาะการค้าประเวณีเด็ก และการบังคับค้าประเวณี เด็กขอทานบนถนน สะพานลอย โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวจะต้องไม่มีชาวโรฮิงญาลักลอบหลบหนีเข้าเมืองในพื้นที่รับผิดชอบ รวมทั้งไม่มีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย (ค้ามนุษย์) ในภาคแรงงานกลุ่มเสี่ยง

ส่วนในระยะขยายผล ต้องเพิ่มประสิทธิภาพในการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีค้ามนุษย์ คัดแยกคดีค้ามนุษย์ที่มีลักษณะเป็นเครือข่ายขบวนการ ยึดทรัพย์ที่ได้จากการกระทำผิด และดำเนินมาตรการทางภาษีให้เข็ดหลาบ รวมทั้งการสืบสวนหาข่าวบุคคล และสถานที่เป้าหมาย ซึ่งหากพบว่ามีพฤติการณ์เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ให้ขยายผลพิสูจน์ทราบเครือข่ายผู้ร่วมกระทำผิด โดยเฉพาะนายทุน ผู้สนับสนุน รวบรวมหลักฐานให้รอบคอบรัดกุม และจับกุมดำเนินคดีโดยเร็ว

โดยให้ผู้กำกับการสถานีตำรวจทุกสถานี รายงานผลการดำเนินการตามข้างต้นให้ตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ทราบภายในวันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้อีกด้วย