ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ล้อมจับว่าที่เจ้าบ่าววัย 19 ปี ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ 2 รายซ้อน อ้างเพื่อหาเงินไปแต่งงานหลังขาดเงินสินสอดอีก 10,000 บาท ทั้งๆ ที่เตรียมงานไว้พร้อมแล้วพรุ่งนี้
วันนี้ (4 ก.พ.) พ.ต.อ.อารมภ์ จันทนา ผกก.สภ.พนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งว่า มีคนร้ายทำการวิ่งราวทรัพย์บริเวณในตลาดเก่าเทศบาลเมืองพนัสนิคม ถึง 2 ครั้งติดต่อกัน จึงพร้อมตำรวจและอาสาสมัครป้องกันพลเรือนกว่า 50 ราย รุดไปที่เกิดเหตุ ทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุเป็นชายอายุประมาณ 20 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม สูงประมาณ 160 ซม. กางเกงขาสั้นลายดอก ผมสั้น ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดง-ดำ หมายเลขทะเบียน งรม 654 ชลบุรี เป็นยานพาหนะในการหลบหนี จึงให้สกัดจับคนร้าย
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตามจับกุมคนร้ายได้ขณะขับขี่มาทางหมู่ 5 ตำบลนาวังหิน อำเภอพนัสนิคม และวิ่งหลบหนีไปทางโรงงานร้าง ทราบชื่อคือ นายณัฐวุฒิ แซ่อึ้ง อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134 หมู่ 10 ตำบลนาวังหิน อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี พร้อมยึดของกลางเป็นเงินสด จำนวน 9,000 บาท
สอบสวนผู้เสียหายรายแรกคือ น.ส.สำเนียง วงษ์คำภู อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/4 ถนนบ้านเรือนใหญ่ เขตเทศบาลเมืองพนัสนิคม อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ให้การว่า ขณะตนเดินทางไปซื้ออาหารที่ตลาดเทศบาลอยู่นั้น คนร้ายเข้ามาข้างหลังกระชากกระเป๋า ภายในมีเงินสด 1,500 บาท สมุดเงินฝากธนาคาร 1 เล่ม หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ส่วนผู้เสียหายคนที่ 2 ได้แก่ นางสมญา สัตญาลักษณ์ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/1 หมู่ 12 ตำบลนาเริก อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ให้การว่า ในช่วงนั้นตนเองกำลังจ่ายกับข้าวเช่นกัน คนร้ายเดินมาข้างหลังบอกว่า ขอทางหน่อย ตนเองก็ให้ผ่านไป หลังจากนั้น คนร้ายก็คว้ากระเป๋าเงิน ภายในมีเงินสดอยู่ 7,500 บาท รีบวิ่งหลบหนีขึ้นรถจักรยานยนต์ไปอย่างรวดเร็ว
ต่อมา พล.ต.ต.นิติพงศ์ เนียมน้อย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี จึงเดินทางมาแถลงข่าวด้วยตนเอง กล่าวว่า ตำรวจตั้งข้อกล่าวหา นายณัฐวุฒิ กระทำความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท
โดยรับสารภาพว่า สาเหตุที่ตนต้องตัดสินใจก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ติดต่อกันถึง 2 ครั้ง ก็เพื่อที่จะหาเงินไปแต่งงานในวันพรุ่งนี้ โดยทางฝ่ายเจ้าสาวได้เรียกสินสอดทองหมั้น จำนวน 20,000 บาท และทางฝ่ายเจ้าสาวก็เตรียมจัดงานเอาไว้เรียบร้อย ตนเองมีเงินอยู่ในตัวทั้งหมด 10,000 บาท ยังขาดเงินอีก 10,000 บาท จึงตัดสินใจออกวิ่งราวทรัพย์