บุรีรัมย์ - พ่อแม่ พร้อมเมีย ลูกชาย 4 ขวบ และญาติพี่น้องหนุ่มวัย 25 ปีถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายเสียชีวิตหลังไปร่วมงานกฐิน ชูภาพถ่ายผู้ตายบุกร้องผู้การตำรวจบุรีรัมย์เร่งจับกุมผู้ก่อเหตุดำเนินคดีหลังผ่านไป 3 เดือนคดีไม่คืบ ขณะผู้การสั่งตั้งชุดสืบจังหวัดลงพื้นที่ร่วมสอบสวนเร่งคลี่คลายคดี สลดใจลูกชายวัย 4 ขวบกอดหอมรูปถ่ายพ่อที่เสียชีวิต
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (26 ม.ค.) นายสุด การะเกศ อายุ 49 ปี และนางทองหล่อ การะเกศ อายุ 47 ปี พ่อแม่ พร้อม น.ส.จิราภร ประทินรัมย์ อายุ 21 ปี ภรรยา และญาติพี่น้องของนายวรรณพงษ์ การะเกศ หรือนก อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 ม.5 ต.สะแกโพรง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีอาชีพเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างศาลาวัดและสร้างบ้านที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นในหมู่บ้านรุมทำร้ายเสียชีวิต หลังเดินทางกลับจากไปร่วมงานบุญกฐินที่ ต.ลุมปุ๊ก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนวันที่ 25 ต.ค. 57 ที่ผ่านมา
ได้นำรูปถ่ายของนายวรรณพงษ์ขณะยังมีชีวิตและรูปถ่ายขณะถูกทำร้ายเสียชีวิตแล้ว มาร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ต.สุวรรณ เอกโพธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ให้ช่วยเร่งรัดคดีและติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุรุมทำร้ายร่างกายนายวรรณพงษ์ จนเสียชีวิตมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว หลังเวลาผ่านไปนานถึง 3 เดือนแล้วแต่คดียังไม่มีความคืบหน้า โดยเหตุดังกล่าวเกิดในท้องที่ของ สภ.หนองสองห้อง
ทั้งนี้ ขณะที่ญาติกำลังยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้บังคับการตำรวจอยู่นั้น เห็น ด.ช.นพรัตน์ การะเกศ วัย 4 ขวบ ลูกชายของผู้เสียชีวิต ได้กอดหอมภาพถ่ายของพ่อด้วยความรักและผูกพันกับผู้เป็นพ่อ ซึ่งเป็นภาพที่สร้างความสลดใจแก่ญาติและชาวบ้านเป็นอย่างมาก
นางทองหล่อ การะเกศ แม่ผู้เสียชีวิต เล่าว่า วันเกิดเหตุลูกชายพร้อม นายเพชรจำนงค์ ผมทอง เพื่อนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปร่วมงานบุญกฐินที่ ต.ลุมปุ๊ก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น. (25 ต.ค. 57) ลูกได้เดินทางกลับมาบ้านพร้อมเล่าให้ฟังว่า ระหว่างทางบริเวณหน้าวัดเจตมินวนารามสมสนุก (บุลาว) ได้ถูกกลุ่มวัยรุ่นในหมู่บ้านรุมทำร้าย แต่ลูกกับเพื่อนก็หนีเอาตัวรอดมาได้
กระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น.ลูกชายกับเพื่อนก็กลับไปที่งานกฐินอีก แต่ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์จะกลับบ้านมีกลุ่มวัยรุ่นมาดักทำร้ายอีก ซึ่งนายเพชรจำนงค์สามารถหนีมาได้ แต่ลูกชายหนีไม่ทันได้ถูกรุมทำร้ายจนเสียชีวิต
หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.หนองสองห้อง แต่จนถึงขณะนี้เวลาผ่านไปนาน 3 เดือนแล้วยังไม่มีความคืบหน้า จึงได้มายื่นร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ ให้ช่วยเหลือเร่งรัดคดีและติดตามจับกุมตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ครอบครัวและผู้เสียชีวิตด้วย
ทางด้าน พล.ต.ต.สุวรรณ์ เอกโพธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ กล่าวภายหลังมารับเรื่องร้องเรียนกับพ่อแม่และญาติผู้เสียชีวิตด้วยตัวเองว่า จะตั้งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดเข้าไปร่วมสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าวกับตำรวจท้องที่เพื่อเร่งคลี่คลายคดีให้ได้โดยเร็ว ซึ่งจากการสอบถามข้อมูลเบื้องต้นเชื่อว่าคดีดังกล่าวไม่มีความซับซ้อนอะไร มั่นใจว่าใช้เวลาไม่นานจะได้ความคืบหน้าอย่างแน่นอน
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (26 ม.ค.) นายสุด การะเกศ อายุ 49 ปี และนางทองหล่อ การะเกศ อายุ 47 ปี พ่อแม่ พร้อม น.ส.จิราภร ประทินรัมย์ อายุ 21 ปี ภรรยา และญาติพี่น้องของนายวรรณพงษ์ การะเกศ หรือนก อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 ม.5 ต.สะแกโพรง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีอาชีพเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างศาลาวัดและสร้างบ้านที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นในหมู่บ้านรุมทำร้ายเสียชีวิต หลังเดินทางกลับจากไปร่วมงานบุญกฐินที่ ต.ลุมปุ๊ก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนวันที่ 25 ต.ค. 57 ที่ผ่านมา
ได้นำรูปถ่ายของนายวรรณพงษ์ขณะยังมีชีวิตและรูปถ่ายขณะถูกทำร้ายเสียชีวิตแล้ว มาร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ต.สุวรรณ เอกโพธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ให้ช่วยเร่งรัดคดีและติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุรุมทำร้ายร่างกายนายวรรณพงษ์ จนเสียชีวิตมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว หลังเวลาผ่านไปนานถึง 3 เดือนแล้วแต่คดียังไม่มีความคืบหน้า โดยเหตุดังกล่าวเกิดในท้องที่ของ สภ.หนองสองห้อง
ทั้งนี้ ขณะที่ญาติกำลังยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้บังคับการตำรวจอยู่นั้น เห็น ด.ช.นพรัตน์ การะเกศ วัย 4 ขวบ ลูกชายของผู้เสียชีวิต ได้กอดหอมภาพถ่ายของพ่อด้วยความรักและผูกพันกับผู้เป็นพ่อ ซึ่งเป็นภาพที่สร้างความสลดใจแก่ญาติและชาวบ้านเป็นอย่างมาก
นางทองหล่อ การะเกศ แม่ผู้เสียชีวิต เล่าว่า วันเกิดเหตุลูกชายพร้อม นายเพชรจำนงค์ ผมทอง เพื่อนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปร่วมงานบุญกฐินที่ ต.ลุมปุ๊ก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น. (25 ต.ค. 57) ลูกได้เดินทางกลับมาบ้านพร้อมเล่าให้ฟังว่า ระหว่างทางบริเวณหน้าวัดเจตมินวนารามสมสนุก (บุลาว) ได้ถูกกลุ่มวัยรุ่นในหมู่บ้านรุมทำร้าย แต่ลูกกับเพื่อนก็หนีเอาตัวรอดมาได้
กระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น.ลูกชายกับเพื่อนก็กลับไปที่งานกฐินอีก แต่ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์จะกลับบ้านมีกลุ่มวัยรุ่นมาดักทำร้ายอีก ซึ่งนายเพชรจำนงค์สามารถหนีมาได้ แต่ลูกชายหนีไม่ทันได้ถูกรุมทำร้ายจนเสียชีวิต
หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.หนองสองห้อง แต่จนถึงขณะนี้เวลาผ่านไปนาน 3 เดือนแล้วยังไม่มีความคืบหน้า จึงได้มายื่นร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ ให้ช่วยเหลือเร่งรัดคดีและติดตามจับกุมตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ครอบครัวและผู้เสียชีวิตด้วย
ทางด้าน พล.ต.ต.สุวรรณ์ เอกโพธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ กล่าวภายหลังมารับเรื่องร้องเรียนกับพ่อแม่และญาติผู้เสียชีวิตด้วยตัวเองว่า จะตั้งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดเข้าไปร่วมสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าวกับตำรวจท้องที่เพื่อเร่งคลี่คลายคดีให้ได้โดยเร็ว ซึ่งจากการสอบถามข้อมูลเบื้องต้นเชื่อว่าคดีดังกล่าวไม่มีความซับซ้อนอะไร มั่นใจว่าใช้เวลาไม่นานจะได้ความคืบหน้าอย่างแน่นอน