xs
xsm
sm
md
lg

ขอเชิญร่วมสนับสนุนโครงการ “อานม้าเพื่อน้อง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“อานม้าเพื่อน้อง” สำนึกบูชาคุณม้ากัณฑกะช่วยพระ และเด็กบนดอยสูง อานม้าจึงมีความสำคัญพอๆ กับม้า เช่นเดียวกับรถที่ต้องมีอุปกรณ์นิรภัยที่ดี บางทีเวลาเด็กบนดอยไม่สบายเจ็บไข้ได้ป่วยก็ได้ม้านี่แหละบรรทุกออกมารักษาในเมือง บางทีเด็กเสียชีวิตก่อน ต้องฝังศพเด็กในป่าเพราะไปไม่ทัน ดังนี้จึงเป็นที่มาของโครงการอานม้าเพื่อน้องเมื่อสามสิบปีที่แล้ว

โครงการครูหลังม้าได้ถือกำเนิดขึ้น ซึ่งในโครงการนี้มีการระดมทุนจากหลายๆ ที่เข้าไปร่วม รวมถึงภาคเอกชนด้วย หนึ่งในนั้นมีชุมชนไทยในแอลเอได้เคยเข้าร่วมบริจาคทุนทรัพย์เช่นกัน โดยการนำของ “หลวงเตี่ย” หรือพระเทพโสภณ (ตำแหน่งในขณะนั้น) และครูชลินทร์ ปิ่นวัฒนะ ท่านได้นำทุนทรัพย์ปัจจัยต่างๆ และคณะญาติโยมจากแอลเอไปร่วมกันสร้างโรงเรียนบนดอยในเขตจังหวัดแม่ฮ่องสอนเอาไว้หลายหลัง

ณ เวลานั้น ครูที่อยู่ประจำโรงเรียนนั้นๆ ล้วนแต่เป็นอาสาสมัคร ครูจะต้องขี่ม้าขึ้นไปสอนนักเรียนในโรงเรียนนั้น และเมื่อเสร็จสิ้นการสอนแล้วครูจะเดินทางต่อไปด้วยม้าไปยังโรงเรียนอื่นๆ อีก บางโรงเรียนถึงขนาดไม่มีครู มีแค่นักการภารโรง และโรงเรียนก็เป็นเพียงแค่โรงนาโล่งๆ

โรงเรียนก็ยังมีสภาพเป็นดั่งเดิมคือเป็นโรงเรียนที่มีอาคารเรียนเป็นฝาไม้ขัดแตะเก่าๆ ครูต้องเดินทางด้วยม้าไปสอนหนังสือเด็กนักเรียน เด็กนักเรียนทั้งหมดทางบ้านมีฐานะยากจน พระปฏิญญา เขมโก แห่งวัดไทยแอลเอ สหรัฐอเมริกา พระธรรมทูตสายต่างประเทศ ได้ริเริ่มโครงการ “ผ้าป่ามหากุศลอานม้าเพื่อน้อง” เพื่อนำเงินซื้ออานม้าถวายพระสงฆ์ และให้ครูและนักเรียนในถิ่นกันดารในประเทศไทย ที่ต้องขี่ม้าหลังเปล่าออกบิณฑบาต และไปโรงเรียนที่ยังจำเป็นต้องใช้ม้าเป็นพาหนะในการดำเนินชีวิตประจำวันอยู่ เสี่ยงต่อการพลัดตกเขาเวลาม้าพยศจะเป็นอันตรายได้ง่าย

พระปฏิญญาเปิดเผยว่า “หลังจากที่ได้ศึกษา ติดต่อ รวมถึงขอให้อดีตครูอาสาสมัครของโรงเรียนพุทธศาสนาวัดไทยฯ ที่อยู่ในพื้นที่ไปติดต่อพูดคุยกับโครงการต่างๆ ในพื้นที่แล้ว ทราบว่าส่วนใหญ่ต้องการอานม้า ก็มองว่าที่เราน่าจะช่วยได้ ไม่ต้องมากคือบริจาคอานม้าไปให้ก็ได้ เพราะทุกวันนี้ พระก็ดี ครูก็ดี นักเรียนก็ดี ขี่ม้าหลังเปล่ากัน เวลาขึ้นเนิน ข้ามห้วย ม้ามันดิ้นหน่อย ทั้งพระ ทั้งเด็ก ทั้งครูตกม้ากันเป็นแถว เพราะไม่มีอานก็ไม่มีโกลนให้เหยียบมันทรงตัวยาก”

พระอาจารย์สุทธิพงค์ ธัมมวโร แห่งวัดป่าอาชาทองผู้ดูแลโครงการครูบนหลังม้า กล่าวว่า “พวกเราบริจากม้าให้กับโครงการครูหลังม้าแต่เราไม่มีอานม้าบริจาคให้ ถ้าใครบริจาคอานม้ามาให้ก็ถือว่าเป็นการเติมเต็มโครงการครูหลังม้าให้บริบูรณ์”

พระปฏิญญากล่าวว่า “ทุกวันนี้โครงการครูหลังม้าบางส่วนได้รับการช่วยเหลือจากวัดป่าอาชาทอง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ทางวัดได้บริจาคม้าแกรบตัวเล็กๆ ไปให้กับโครงการครูหลังม้า ทำให้ครูได้มีม้าขี่ขึ้นไปสอนหนังสือเด็กๆ ทางวัดให้ได้แค่ตัวม้าเท่านั้น แต่สำหรับอานม้านั้นทางวัดไม่มีให้”

ดังนั้นท่านจึงคิดว่า หากมีผู้ใจบุญท่านใดบริจาคอานม้าไปให้ครูเหล่านี้ใช้ในการสัญจรด้วยม้าจะดีไม่น้อย และสาเหตุที่คิดโครงการนี้ เพราะนึกถึงม้ากัณฐกะที่พาเจ้าชายสิทธัตถะออกจากวังไปบวช จนได้ตรัสรู้เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราชาวพุทธ นึกว่าถ้าไม่มีม้าตัวนี้ท่านก็คงไม่ได้บวช คงไม่มีพระพุทธศาสนาอย่างเช่นทุกวันนี้

ขณะนี้อานม้าจำนวนเกือบ 20 อานได้ถูกจัดส่งมาที่ประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว โดยการประสานงานของอาจารย์ตรัย ไขรหัสกรรม แห่งชมรมพุทธานุภาพ โดยมีพ่อท่านจันทร์ ปัญจพล อาจหาญ เป็นประธาน จะได้ทำการนำอานม้าไปมอบถวายแด่คณะสงฆ์วัดป่าอาชาทอง อ.แม่จันทร์ จ.เชียงราย เพื่อนำมอบแก่ครู นักเรียน พระภิกษุ สามเณร ที่ขาดแคลนต่อไป ซึ่งจะมีการถวายผ้าป่าอานม้าในวันพุธที่ 28 มกราคม 2558 นี้ นอกจากนั้นจะมีการมอบผ้าห่มเครื่องกันหนาวแก่พี่น้องชาวเขาผู้ยากไร้ในภาคเหนือด้วย สนใจร่วมบุญสนับสนุนโครงการอานม้าเพื่อน้องติดต่อ 08-7132-3255 หรือเฟซบุ๊ก อานม้าเพื่อน้อง พี่มอม้า ได้ตามกำลัง
กำลังโหลดความคิดเห็น