หนองคาย - รวบอดีตนายช่างชลประทานอ้างเป็นปรึกษาโครงการขุดลอกหนองน้ำในหนองคายมูลค่านับหมื่นล้านบาท ลวงผู้รับเหมาหลายรายมารับเหมางาน เรียกเก็บเงินประกันสัญญา 5% มีผู้หลงกลกว่าครึ่งร้อยหอบเงินสดมาวาง เผยพิรุธหลายประเด็น แถมแอบอ้างเบื้องสูง ผู้ว่าฯ หนองคายฉุนถูกแอบอ้างด้วย สั่งเร่งขยายผล คาดทั้งแก๊งมีกว่า 10 คน
วันนี้ (24 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ที่ห้องสืบสวนกองกำกับการตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นายไพฑูรย์ รักษ์ประเทศ ปลัดจังหวัดหนองคาย พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผกก.ตม.หนองคาย พ.ต.อ.สามารถ วิสุเวช พงส.ผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองหนองคาย ร.ต.อลงกรณ์ กล้าหาญ เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความสงบประจำจังหวัดหนองคาย ได้ร่วมกันสอบสวน นายโชติช่วง คงแก้ว อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/71 ถนนพระยาพิชัยดาบหัก ต.เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี อดีตนายช่างชลประทานชำนาญงาน สำนักงานจัดรูปที่ดิน จ.ลพบุรี ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และความผิดมาตรา 112 หมิ่นเบื้องสูง
สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันเดียวกัน ได้มี นายกนกศักดิ์ เมืองแก้ว อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83 หมู่ 8 ต.ท่ากระดาน อ.คีรีรัฐ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้รับเหมา ได้เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย สอบถามโครงการขุดลอกหนองบ่อ ต.เวียงคุก และ ต.หนองกอมเกาะ อ.เมืองหนองคาย ซึ่งมีผู้อ้างว่าเป็นโครงการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดรับผิดชอบ แต่นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย แจ้งว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ไม่ชอบ
โดย นายกนกศักดิ์ แจ้งว่า นายโชติช่วง คงแก้ว ซึ่งเป็นที่ปรึกษาโครงการนัดให้มาทำสัญญาจ่ายเงินประกันที่บริเวณหนองบ่อ บ้านไผ่สีทอง ต.เวียงคุก ดังนั้น นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าฯ หนองคาย จึงสั่งการให้ ร.ต.อ.อภิชาติ คลธา สว.ตม.หนองคาย นำเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ไปทำการจับกุม นายโชติช่วง มาสอบสวน
นายกนกศักดิ์ เมืองแก้ว ผู้เสียหายให้การว่า เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ในวงการผู้รับเหมามีการปล่อยข่าวว่า ทาง จ.หนองคาย ได้ดำเนินโครงการขุดลอกผักตบชวาในหนองน้ำสาธารณะหลายแห่ง ผู้รับเหมาที่สนใจจะได้ค่าตอบแทนไร่ละ 80,000-200,000 บาท โดยต้องวางเงินสดเป็นเงินประกันสัญญาร้อยละ 5 ของพื้นที่หน้างาน ซึ่งมีผู้รับเหมามากกว่า 50 ราย จากหลายจังหวัดได้นำเงินสดมาวางประกัน
โดยมีบริษัทเคอาร์ (K.R) ที่นายโชติช่วง อ้างว่าเป็นที่ปรึกษาโครงการ รวมมูลค่าโครงการนับหมื่นล้านบาท และตนได้วางเงินประกันไปแล้วประมาณ 6 แสนบาท จนกระทั่งเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันเริ่มทำงานกำจัดผักตบชวา แต่ปรากฏว่า ทำงานได้เพียง 1 ชั่วโมง ก็มาถูกสั่งระงับไม่ให้ทำงานต่อ ตนจึงพยายามติดต่อสอบถามข้อมูลจนเกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับโครงการของบริษัท เคอาร์ พบว่า มีพิรุธหลายอย่าง จึงได้ขอพบผู้ว่าฯ หนองคาย
ประเด็นพิรุธคือ นายโชติช่วง อ้างว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย มีส่วนได้เสียต่อโครงการแถมอ้างว่า เจ้าของบริษัท เคอาร์ เป็นลูกหลานกษัตริย์ของประเทศจีน มีการลงนามข้อตกลงทำโครงการขุดลอกร่วมกับประเทศสหรัฐอเมริกา และกล่าวอ้างเบื้องสูง โดย นายกนกศักดิ์ ได้บันทึกเสียงการสนทนาไว้เป็นหลักฐาน นำมามอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พิจารณา และวางแผนจับกุมนายโชติช่วง ได้ดังกล่าว
ด้าน นายโชติช่วง คงแก้ว ผู้ต้องหาให้การว่า ตนรู้จักกับเจ้าของบริษัทเคอาร์ เมื่อปี 2555 โดยขอให้ตนมาช่วยดูแลเกี่ยวกับงานขุดลอกด้านชลประทาน ซึ่งยืนยันว่า เป็นโครงการที่มีจริงไม่ได้หลอกลวง ซึ่งในระหว่างการสอบสวน นายโชติช่วง พูดจาวกวน และมีการกล่าวอ้างถึงบุคคลหลายคนอยู่ตลอดเวลา
ขณะที่ นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เปิดเผยว่า โครงการนี้ไม่ชอบมาพากลหลายด้าน มีการกล่าวอ้างถึงที่มาของเงินว่าได้มาจากกองทุนหนึ่งในสหรัฐอเมริกาว่าให้เงินมาช่วยทำการขุดลอกแหล่งน้ำ แต่จากข้อมูล และเอกสารที่ตนมี บริษัทที่กล่าวอ้างนั้นเป็นเอกสารปลอมแปลงขึ้นมา อีกทั้งตนได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ซึ่งมีบุคคลไม่ต่ำกว่า 10 คน ทั้งคนในพื้นที่ และคนต่างจังหวัด รวมถึงชาวต่างชาติ ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อบุคคลต้องสงสัยได้ในขณะนี้ และหากโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ถูกต้องจริง ตนยินดีให้เข้ามาทำงานในพื้นที่เพราะเป็นประโยชน์ต่อชาวหนองคายเป็นอย่างมาก
“แต่ที่ผมยอมไม่ได้เพราะมีการกล่าวอ้างเบื้องสูงเพื่อหลอกลวงผู้รับเหมา และหลอกลวงประชาชนในพื้นที่ให้เข้าใจผิด หลังจากนี้ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามกลุ่มบุคคลเหล่านี้มาดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด” นายสุชาติ กล่าวในตอนท้าย