บุรีรัมย์ - สังคมไทยยังไม่สิ้นคนดี แม่บ้านรีสอร์ตดัง อ.พุทไธสง บุรีรัมย์ เก็บสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 2 องค์ รวมมูลค่ากว่าแสนบาท ได้ในห้องพักนำส่งให้เจ้าของรีสอร์ตลงเฟซบุ๊กประกาศตามหาเจ้าของ พร้อมแจ้ง ตร.ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเจ้าของนำหลักฐานมาติดต่อขอรับ

วันนี้ (23 ม.ค.) สังคมไทยยังไม่สิ้นคนดี นางสมบุญ ภูสีฤทธิ์ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 ม.12 บ้านน้อยกระทุ่มทอง ต.บ้านจาน อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ที่ “เรือนไทยรีสอร์ท” ตั้งอยู่ ต.บ้านจาน อ.พุทไธสง พร้อมด้วย นายเรืองวิทย์ พยัคฆ์ไธสง เจ้าของรีสอร์ตดังกล่าว ได้นำสร้อยคำทองคำหนัก 5 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 2 องค์ รวมมูลค่ากว่า 1 แสนบาท ที่ นางสมบุญ เก็บได้ในห้องพักภายในรีสอร์ตเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.ภาสกร โพธิขำ สารวัตรเวรฯ สภ.พุทไธสง ให้ช่วยประกาศตามหาเจ้าของ
โดยนางสมบุญ แม่บ้านที่เก็บสร้อยคำทองคำดังกล่าวได้ กล่าวว่า ช่วงเช้าได้เข้าไปทำความสะอาดห้องพักตามปกติทุกวัน แต่พอเข้าไปเก็บกวาดทำความสะอาดห้องพักหมายเลข 8 พบสร้อยคอทองคำลายเกลียวกระดูกงู พร้อมพระเลี่ยมทองวางอยู่ใต้หมอน คิดว่าน่าจะเป็นของลูกค้าที่เข้าพัก จึงได้นำไปแจ้งให้ นายเรืองวิทย์ เจ้าของรีสอร์ตทราบ
จากนั้น นายเรืองวิทย์ ได้นำโทรศัพท์มือถือถ่ายรูปสร้อยคอดังกล่าวแล้วโพสต์ลงเฟซบุ๊กเพื่อประกาศตามหาเจ้าของ แต่ไม่มีใครมาติดต่อขอรับ จึงได้นำไปแจ้งตำรวจให้ช่วยตามหาเจ้าของอีกทาง
กระทั่ง นางมุกดา สุดเสน่ห์ อยู่บ้านเลขที่ 4/7 ถนนผดุงพาณิชย์ อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นลูกค้าที่เข้ามาพักในรีสอร์ตดังกล่าว มีอาชีพรับซื้อแตงโมตามสวนส่งขายตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ได้โทรศัพท์มาสอบถามทางรีสอร์ตว่า เห็นสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 2 องค์หรือไม่ และไม่ทราบทำหล่นหาย หรือลืมวางไว้ตรงไหน พนักงานจึงแจ้งว่ามีแม่บ้านเก็บได้นำไปส่งให้เจ้าของ และแจ้งตำรวจแล้วให้ไปติดต่อรับที่สถานีตำรวจ
ต่อมา นางมุกดา สุดเสน่ห์ เจ้าของสร้อยได้ให้นายสมัย ขอมหงส์ ซึ่งเป็นญาตินำหลักฐานเดินทางมารับสร้อยคอทองคำ และพระเลี่ยมทองกับ นางสมบุญ ที่ สภ.พุทไธสง โดยมี พ.ต.ต.ภาสกร โพธิ์ขำ สารวัตรเวรฯ สภ.พุทไธสง และนายเรืองวิทย์ พยัคฆ์ไธสง เจ้าของรีสอร์ตเป็นสักขีพยานในการส่งมอบสร้อยคอทองคำคืนเจ้าของด้วย
นางสมบุญ แม่บ้านที่เก็บสร้อยได้ กล่าวว่า ทำงานเป็นแม่บ้านที่รีสอร์ตดังกล่าวมาแล้ว 2 ปี ที่ผ่านมา เคยเก็บของมีค่าทั้งเงินสด สร้อยทอง โทรศัพท์ของลูกค้าที่มาพักได้เป็นประจำ ทุกครั้งจะนำไปแจ้งเจ้าของรีสอร์ตทราบเพื่อส่งมอบคืนให้แกเจ้าของโดยไม่คิดจะเอาเก็บไว้เป็นของตัวเอง และไม่ได้หวังสิ่งใดตอบแทน เพราะคิดว่าคนทำหาย หรือลืมไว้ก็อยากจะได้ทรัพย์สินคืน ไม่ว่าจะมีมูลค่ามากหรือน้อยก็ตาม ทั้งยังเชื่อว่าการทำความดี และซื่อสัตย์ต่อตนเอง หน้าที่การงานก็จะได้รับสิ่งที่ดีตอบแทน
ด้าน นายเรืองวิทย์ เจ้าของรีสอร์ต กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่มีลูกน้องเป็นคนซื่อสัตย์ พร้อมทั้งได้กล่าวชื่นชมในความซื่อสัตย์ของแม่บ้านที่เก็บทรัพย์สินได้แล้วนำส่งคืนให้เจ้าของ ซึ่งที่ผ่านมา พนักงานในรีสอร์ตจะเก็บทรัพย์สินที่ลูกค้าหลลงลืมไว้มาแจ้งต่อตนเพื่อนำส่งคืนให้เจ้าของหลายครั้ง ทำให้ลูกค้าไว้ใจ และกลับมาพักบ่อยครั้ง และในฐานะที่ตนเป็นนายจ้างก็จะตอบแทนในความซื่อสัตย์ของลูกน้องโดยขึ้นเงินเดือนให้แก่นางสมบุญ เพื่อเป็นกำลังใจในการทำความดีและซื่อสัตย์ต่อไปด้วย

วันนี้ (23 ม.ค.) สังคมไทยยังไม่สิ้นคนดี นางสมบุญ ภูสีฤทธิ์ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 ม.12 บ้านน้อยกระทุ่มทอง ต.บ้านจาน อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ที่ “เรือนไทยรีสอร์ท” ตั้งอยู่ ต.บ้านจาน อ.พุทไธสง พร้อมด้วย นายเรืองวิทย์ พยัคฆ์ไธสง เจ้าของรีสอร์ตดังกล่าว ได้นำสร้อยคำทองคำหนัก 5 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 2 องค์ รวมมูลค่ากว่า 1 แสนบาท ที่ นางสมบุญ เก็บได้ในห้องพักภายในรีสอร์ตเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.ภาสกร โพธิขำ สารวัตรเวรฯ สภ.พุทไธสง ให้ช่วยประกาศตามหาเจ้าของ
โดยนางสมบุญ แม่บ้านที่เก็บสร้อยคำทองคำดังกล่าวได้ กล่าวว่า ช่วงเช้าได้เข้าไปทำความสะอาดห้องพักตามปกติทุกวัน แต่พอเข้าไปเก็บกวาดทำความสะอาดห้องพักหมายเลข 8 พบสร้อยคอทองคำลายเกลียวกระดูกงู พร้อมพระเลี่ยมทองวางอยู่ใต้หมอน คิดว่าน่าจะเป็นของลูกค้าที่เข้าพัก จึงได้นำไปแจ้งให้ นายเรืองวิทย์ เจ้าของรีสอร์ตทราบ
จากนั้น นายเรืองวิทย์ ได้นำโทรศัพท์มือถือถ่ายรูปสร้อยคอดังกล่าวแล้วโพสต์ลงเฟซบุ๊กเพื่อประกาศตามหาเจ้าของ แต่ไม่มีใครมาติดต่อขอรับ จึงได้นำไปแจ้งตำรวจให้ช่วยตามหาเจ้าของอีกทาง
กระทั่ง นางมุกดา สุดเสน่ห์ อยู่บ้านเลขที่ 4/7 ถนนผดุงพาณิชย์ อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นลูกค้าที่เข้ามาพักในรีสอร์ตดังกล่าว มีอาชีพรับซื้อแตงโมตามสวนส่งขายตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ได้โทรศัพท์มาสอบถามทางรีสอร์ตว่า เห็นสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 2 องค์หรือไม่ และไม่ทราบทำหล่นหาย หรือลืมวางไว้ตรงไหน พนักงานจึงแจ้งว่ามีแม่บ้านเก็บได้นำไปส่งให้เจ้าของ และแจ้งตำรวจแล้วให้ไปติดต่อรับที่สถานีตำรวจ
ต่อมา นางมุกดา สุดเสน่ห์ เจ้าของสร้อยได้ให้นายสมัย ขอมหงส์ ซึ่งเป็นญาตินำหลักฐานเดินทางมารับสร้อยคอทองคำ และพระเลี่ยมทองกับ นางสมบุญ ที่ สภ.พุทไธสง โดยมี พ.ต.ต.ภาสกร โพธิ์ขำ สารวัตรเวรฯ สภ.พุทไธสง และนายเรืองวิทย์ พยัคฆ์ไธสง เจ้าของรีสอร์ตเป็นสักขีพยานในการส่งมอบสร้อยคอทองคำคืนเจ้าของด้วย
นางสมบุญ แม่บ้านที่เก็บสร้อยได้ กล่าวว่า ทำงานเป็นแม่บ้านที่รีสอร์ตดังกล่าวมาแล้ว 2 ปี ที่ผ่านมา เคยเก็บของมีค่าทั้งเงินสด สร้อยทอง โทรศัพท์ของลูกค้าที่มาพักได้เป็นประจำ ทุกครั้งจะนำไปแจ้งเจ้าของรีสอร์ตทราบเพื่อส่งมอบคืนให้แกเจ้าของโดยไม่คิดจะเอาเก็บไว้เป็นของตัวเอง และไม่ได้หวังสิ่งใดตอบแทน เพราะคิดว่าคนทำหาย หรือลืมไว้ก็อยากจะได้ทรัพย์สินคืน ไม่ว่าจะมีมูลค่ามากหรือน้อยก็ตาม ทั้งยังเชื่อว่าการทำความดี และซื่อสัตย์ต่อตนเอง หน้าที่การงานก็จะได้รับสิ่งที่ดีตอบแทน
ด้าน นายเรืองวิทย์ เจ้าของรีสอร์ต กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่มีลูกน้องเป็นคนซื่อสัตย์ พร้อมทั้งได้กล่าวชื่นชมในความซื่อสัตย์ของแม่บ้านที่เก็บทรัพย์สินได้แล้วนำส่งคืนให้เจ้าของ ซึ่งที่ผ่านมา พนักงานในรีสอร์ตจะเก็บทรัพย์สินที่ลูกค้าหลลงลืมไว้มาแจ้งต่อตนเพื่อนำส่งคืนให้เจ้าของหลายครั้ง ทำให้ลูกค้าไว้ใจ และกลับมาพักบ่อยครั้ง และในฐานะที่ตนเป็นนายจ้างก็จะตอบแทนในความซื่อสัตย์ของลูกน้องโดยขึ้นเงินเดือนให้แก่นางสมบุญ เพื่อเป็นกำลังใจในการทำความดีและซื่อสัตย์ต่อไปด้วย