จันทบุรี - โขลงช้างป่า 70 ตัว รุกพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน หมู่ 8 ตำบลพวา อำเภอแก่งหางแมว เสียหายหนัก หลังเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนเอาไม่อยู่ ขณะที่ช้างป่าหลงโขลงที่อยู่ในพื้นที่หมู่ 1 และหมู่ 9 พยายามจะข้ามคูดักช้างเข้ามาหากินใกล้หมู่บ้านหลังพื้นที่ท้ายหมู่บ้านแหล่งอาหารที่ชาวบ้านปลูกไว้ถูกช้างป่ากินจนหมด
วันนี้ (21 ม.ค.) เมื่อเวลา 06.40 น.ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปติดตามความคืบหน้าโขลงช้างป่า 70 ตัว ที่เข้ามาในพื้นที่หมู่ 8 ตำบลพวา อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี และความคืบหน้าช้างป่าหลงโขลงที่อยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 9 ตำบลพวา อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ล่าสุด โขลงช้างป่า 70 ตัว ได้รุกหนักจนเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ผู้นำท้องถิ่น และชุด ชรบ.ไม่สามารถที่จะหยุดยั้งให้โขลงช้างป่า 70 ตัว เข้ามาในพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านได้
ทำให้พื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นกล้วยไข่ ยางพารา และต้นเงาะ ถูกโขลงช้างป่ารุกหนัก และบุกทำร้ายกัดกินเหยียบย่ำเสียหาย กิ่งเงาะหักเสียหายเป็นวงกว้าง ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน
ขณะที่ช้างป่าหลงโขลงที่อยู่ในพื้นที่หมู่ 1 และหมู่ 9 ที่มีประมาณ 6-7 ตัว ที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน พยายามที่จะข้ามคูดักช้างเข้ามาในหมู่บ้านเพื่อหาอาหารกิน หลังแหล่งอาหาร และแหล่งน้ำท้ายหมู่บ้านเริ่มไม่มีให้ช้างป่าหลงโขลงกิน
ประกอบกับถูกเจ้าหน้าที่ได้เข้าแผ้วถางแหล่งอาศัยของช้างป่าหลงโขลงอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการให้ช้างป่าหลงโขลงได้กลับขึ้นเขาไป รวมทั้งเจ้าหน้าที่ได้ทำคูดักช้างกั้นเพิ่มขึ้นในระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร ทำให้ช้างป่าหลงโขลงพยายามที่จะข้ามคูดักช้างเข้ามาในหมู่บ้านให้ได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องจัดกำลังตรึงไว้ไม่ให้ช้างป่าหลงโขลงเข้ามาในพื้นที่ได้ โดยการใช้ประทัดจุดไล่และจัดเวรยามเฝ้าระวังช้างป่าหลงโขลงในช่วงค่ำตลอด 24 ชั่วโมง
นายสัญญา ตันศรียา อายุ 38 ปี แรงงานกรีดยาง กล่าวว่า หลังจากตนรู้ว่าโขลงช้างป่ามาก็ได้หลบหนีออกมาเนื่องจากไม่กล้าเผชิญหน้ากับมันเพราะกลัวมันจะทำร้าย ซึ่ีงปัญหาตรงนี้ก็ต้องทนรับจ้างกรีดยางไปต่อไป หากตนไม่รับจ้างกรีดยางก็ไม่มีเงิน
“ใจก็กลัวแต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เพราะช่วงนี้อาหารตามธรรมชาติของช้างป่าหมดทำให้ช้างป่าต้องลงมาหากินในพื้นที่ของชาวบ้านแทน” นายสัญญา กล่าว
