เจ้าของถุงยางเข้าพบ ตร.ยันไม่ได้เผาแต่นำมาตากแห้งเตรียมส่งขายโรงงานรีไซเคิล (ชมคลิป)

พระนครศรีอยุธยา - เจ้าของถุงยางอนามัยกว่า 1 ตันที่ถูกเผาในพื้นที่รกร้างตำบลมหาพราหมณ์ อำเภอบางบาล เข้าให้ปากคำตำรวจแล้ว พร้อมแสดงความรับผิดชอบทั้งหมด ยันไม่ได้เผาทำลาย แต่ไปซื้อมาราคากว่า 1 แสนบาท แล้วนำมาตากแห้งเพื่อเตรียมส่งขายโรงงานรีไซเคิล แจ้ง ตร.ล่ามือเผาฐานทำให้เสียหาย



ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีชาวบ้านในพื้นที่ตำบลมหาพราหมณ์ อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบมีคนนำถุงยางอนามัยจำนวนมากมาจุดไฟเผาที่บริเวณที่รกร้างหมู่ 4 ตำบลมหาพราหมณ์ อำเภอบางบาล ส่งผลให้กลุ่มควัน และกลิ่นฟุ้งกระจายไปทั่ว และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่หลังจากเข้าไปทำการดับไฟแล้วพบว่า เป็นถุงยางอนามัยที่ยังไม่ผ่านการใช้งานใส่อยู่ในถุงพลาสติกสีดำ และใส่ไว้ในกระสอบขนาดใหญ่แบบบิ๊กแบ็ก น้ำหนักประมาณ 1 ตัน กระจายอยู่ทั่วบริเวณ โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา

ต่อมา เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (20 ม.ค.) ที่ สภ.บางบาล อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางณภัทร เม่นทอง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111 หมู่ที่ 17 ตำบลบางกระสั้น อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นเจ้าของถุงยางอนามัยทั้งหมดที่ถูกไฟไหม้ได้เดินทางเข้าให้ปากคำต่อ พ.ต.ท.ธวัชชัย กุลทอง พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สภ.บางบาล โดยแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของถุงยางอนามัยทั้งหมด พร้อมกับแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด

นอกจากนี้ ยังได้ประสานกับทางเทศบาลตำบลมหาพราหมณ์ ในการเคลื่อนย้ายถุงยางอนามัยทั้งหมดไปทำลายอย่างถูกวิธีที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน

นางณภัทร เปิดเผยว่า พื้นที่ที่พบถุงยางอนามัยถูกไฟไหม้นั้นเป็นพื้นที่ของตนเอง โดยถุงยางทั้งหมดมีน้ำหนักประมาณ 1.5 ตัน เป็นถุงยางอนามัยที่ไม่ได้มาตรฐาน ที่ตนซื้อมาจากโรงงานนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดปทุมธานี กว่า 1 แสนบาทแล้วนำมาตากแห้งไว้ที่บริเวณดังกล่าวเพื่อเตรียมนำไปขายให้แก่โรงงานรีไซเคิล ที่จังหวัดสมุทรสาคร นำไปทำแผ่นยางรีเคลมแบบนิ่ม เพื่อนำไปเป็นส่วนผสมกับยางต่างๆ แต่ก็มาเกิดเหตุเพลิงไหม้เสียก่อน

“ถุงยางอนามัยทั้งหมดที่พบไม่ใช่เป็นการเผาทำลาย ส่วนสาเหตุที่เกิดไฟไหม้นั้นสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากมีคนเข้ามาลักไม้พาเลตที่นำมากองทิ้งไว้เพราะกองไม้ล้มระเนระนาดเกลื่อนไปหมดและมีไม้หายไป ในระหว่างนั้นคนร้ายอาจจะสูบบุหรี่แล้วโยนก้นบุหรี่ทิ้งที่พื้นหญ้าจนทำให้เกิดไฟไหม้แล้วลุกลามมาติดถุงยางอนามัยที่นำมาตากไว้จนได้รับความเสียหาย ดังนั้น จึงต้องแจ้งความต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวคนร้ายมาสอบสวน และดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย เพราะทำให้ได้รับความเสียหาย” นางณภัทร กล่าว

ด้านนายวิชา ใจกล้า นายกเทศมนตรีตำบลมหาพราหมณ์ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ถุงยางอนามัยได้ถูกไฟเผาเสียหายเหลืออยู่อีกประมาณ 50 กิโลกรัม โดยได้ขนย้ายออกมาจากจุดเกิดเหตุหมดแล้ว และนำไปเผาที่โรงงานกำจัดขยะแบบไร้ควัน ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน โดยทางเจ้าของขอรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด และได้ปรับเจ้าของตามความผิด พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม 5,000 บาท

ส่วนสาเหตุที่เกิดเพลิงไหม้ น่าจะมาจากการที่มีการเผานานแล้วลุกลามมาที่กองถุงยางอนามัย สำหรับพื้นที่พบถุงยางอนามัย เจ้าของที่ได้มาขออนุญาตก่อสร้างโรงงานรีไซเคิลขยะเมื่อต้นปี 2554 แต่พื้นที่ถูกน้ำท่วม จนได้รับเสียหายจึงได้ยกเลิกการก่อสร้างไปแล้ว