ตาก - เกิดเหตุไฟไหม้บ้านไม้สักชาวบ้านตากวอด แถมเปลวไฟลุกลามไหม้บ้านไม้ของยายวัย 87 ปี แม่เจ้าของบ้านต้นเพลิงที่อยู่ในรั้วเดียวกันขณะอยู่บ้านตามลำพังพยายามดับไฟบ้านลูกสาวจนเป็นลม โชคดีชาวบ้านใกล้เคียงเข้ามาช่วยปฐมพยาบาลทัน
เมื่อเวลาประมาณ 12. 15 น. วันนี้ (16 ม.ค.) ร.ต.ท.อำนาจ จิตสว่าง พนักงานสอบสวน สภ.บ้านตาก อ.บ้านตาก จ.ตาก รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้บ้านบริเวณหลังโรงเรียนบ้านตากประชาวิทยาคาร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยรถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลตำบลบ้านตาก และขอรับการสนับสนุนรถดับเพลิงจากพื้นที่ข้างเคียง รวมกว่า 10 คัน
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าบ้านต้นเพลิงเป็นบ้านไม้สักยกสูง เลขที่ 17 หมู่ที่ 3 ต.ตากออก อ.บ้านตาก จ.ตาก มีนางรจนา ตาแปง อายุ 42 ปี เป็นเจ้าของ ก่อนเปลวไฟจะลามไปลุกไหม้บ้านไม้สักยกสูงของญาติที่อยู่ในรั้วเดียวกัน แต่เจ้าหน้าที่ช่วยสกัดเพลิงไว้ได้ ทำให้บ้านไม้สักหลังที่สองถูกไฟไหม้ไปครึ่งหลัง
นางรจนา ตาแปง เจ้าของบ้านต้นเพลิง เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนไปทำงานขายตั๋วรถโดยสารอยู่ในตัวตลาดบ้านตาก มีหลานชายอยู่บ้าน เพราะโรงเรียนหยุดวันครู ช่วงเกิดเหตุหลานชายได้ปิดบ้านล็อกกุญแจแล้วออกไปทำการบ้านกับเพื่อน ระหว่างนั้นมีเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้นในบ้าน และเกิดไฟลุกไหม้ ประกอบกับสภาพอากาศที่แห้งแล้งทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว
จากนั้นเปลวไฟได้ไหม้ลามไปที่บ้านแม่ คือ นางนาค นิลบุรี อายุ 87 ปี ที่อยู่ในรั้วเดียวกัน ซึ่งขณะนั้นนางนาคอยู่บ้านเพียงลำพัง พยายามจะไปดับไฟในบ้าน แต่ดับไม่ไหว และเป็นลมไป เพื่อนบ้านเห็นเหตุการณ์รีบวิ่งมาช่วยพายายนาคไปทำการปฐมพยาบาลจนอาการปลอดภัยแล้ว
ยายนาค นิลบุรี อายุ 87 ปี บอกว่า ตอนแรกพอเห็นว่าไฟกำลังจะไหม้บ้านของลูกสาว ก็พยายามจะพังประตูเข้าไปดับไฟแต่ไม่ไหวเพราะเป็นคนแก่ไม่มีแรง ระหว่างเกิดเหตุก็มีเพียงตนอยู่บ้านเพียงคนเดียว ลูกหลานที่พักอาศัยในบ้านต้นเพลิงก็แยกย้ายกันไปทำงาน ทำธุระกันหมด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่คาดว่าสาเหตุของเพลิงไหม้น่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจร ประกอบกับบ้านเกิดเหตุเป็นบ้านไม้ และอากาศแห้งแล้ง จึงทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว ประมาณความเสียหายคร่าวๆ กว่า 1 ล้านบาท