xs
xsm
sm
md
lg

น่าชื่นชม! หนุ่มกรุงตาบอดดีกรี ป.โทจากอเมริกา ทุ่มสอนภาษาเด็กพิการลำปางสุดตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายวิชาญ จิตต์ผ่องอำไพ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/1 ซอยวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นครูสอนเด็กพิการสายตา
ลำปาง - พบคุณครูน่าชื่นชมเป็นหนุ่มกรุงเทพฯ พิการตาบอดสนิททั้งสองข้างตอนอายุ 18 ปีสู้จนจบปริญญาตรี ก่อนสมัครเป็นครูอัตราจ้างจนได้ทุนรัฐบาลเรียนต่อ ป.โทจากอเมริกา กลับมาสอนเด็กพิการด้อยโอกาสให้รู้ภาษา ย้ำความพิการทางสายตาไม่ได้เป็นอุสรรค แต่ต้องทำหน้าที่ “ครู” อย่างเต็มที่

วันนี้ (15 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีอาจารย์หนุ่มชาวกรุงเทพฯ มีดีกรีถึงปริญญาโทจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งพิการตาบอดทั้งสองข้าง ยอมทุ่มเทตัวเองมาเป็นครูสอนเด็กตาบอดที่โรงเรียนสอนคนตาบอดจังหวัดลำปาง เพื่อให้เด็กนักเรียนมีความรู้ด้านภาษาอังกฤษ จึงเดินทางไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงที่โรงเรียน พบครูหนุ่มซึ่งมีความพิการทางสายตา (ดวงตาบอดสนิททั้งสองข้าง) คือ นายวิชาญ จิตต์ผ่องอำไพ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/1 ซอยวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นครูสอนเด็กพิการทางสายตา กำลังสอนเด็กๆ ชั้นอนุบาลในห้องเรียนขนาดเล็ก เพื่อให้เรียนรู้และฝึกทักษะภาษาอังกฤษจากวัสดุ หรือบล็อกไม้ ซึ่งเป็นอักษรเบรลล์

หลังเสร็จสิ้นการสอน นายวิชาญได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตอนเกิดมาสายตาตนเองยังปกติ แต่พอถึงช่วงอายุ 18 ปีก็เกิดอาการจอประสาทตาลอกตัวจนดวงตาทั้งสองข้างมองเห็นแบบเลือนลาง ต้องเข้าผ่าตัด หลังจากผ่าตัดประมาณ 2-3 เดือนตาก็มองไม่เห็นอีกเลย จนกระทั่งตนเองจบ ม.6 ก็ได้อยู่บ้านพักฟื้นตัวเองประมาณ 6 เดือน

ครูวิชาญบอกว่า ตอนนั้นต้องเริ่มฝึกทักษะการใช้ไม้เท้าขาว การใช้ชีวิตประจำวัน และเรียนอักษรเบรลล์ หลังจากนั้นจึงได้เริ่มศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีจนจบ และด้วยใจรักความเป็นครู จึงไปสมัครเป็นครูอัตราจ้าง สอนเด็กนักเรียนในโรงเรียนสอนคนตาบอดพื้นที่ภาคใต้ที่สุราษฎร์ธานีถึง 3 ปี จึงได้สมัครสอบครู จนได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการครู ก่อนย้ายจากภาคใต้ไปยังจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งก็สอนได้ประมาณ 2-3 ปี ก็ได้ทุนของรัฐบาลเพื่อไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ที่สถาบันยูนิเวอร์ซิตี ในสหรัฐอเมริกา

เมื่อกลับมาจึงได้สอนหนังสือให้เด็กนักเรียนในจังหวัดต่างๆ จนกระทั่งมีโอกาสมาสอนที่โรงเรียนคนตาบอดลำปาง จนถึงปัจจุบันก็เกือบหนึ่งปีแล้ว

ครูวิชาญบอกอีกว่า ตามความตั้งใจของตนเองนั้นต้องการนำความรู้ที่ได้รับจากทุนของรัฐบาล และด้วยความที่ตนเองพิการ จึงต้องการถ่ายทอดความรู้ที่ได้เรียนมาให้แก่เด็กๆ ซึ่งก็เป็นรุ่นน้อง และมีโอกาสน้อยในสังคม ให้ได้รับโอกาสที่ดีด้านการศึกษา โดยแต่ละวันตนก็จะตั้งใจสอนเด็กนักเรียนอย่างเต็มที่

“ส่วนตัวเห็นว่าชีวิตของผม ซึ่งเป็นครูที่พิการสายตานั้นไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆ แต่สิ่งที่ต้องทำคือ ต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ให้เหมือนกับครูปกติทั่วๆ ไป”



กำลังโหลดความคิดเห็น