บุรีรัมย์ - นายกเหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ใจบุญเก็บสุนัขจรจัดที่ป่วย พิการบนเขากระโดงไปรักษาและเลี้ยงดูเป็นอย่างดี เผยรับเลี้ยงสุนัขและแมวที่ถูกทิ้งมานานแล้วหลายจังหวัดรวมกว่า 200 ตัว หากตัวไหนไม่สามารถขนย้ายตามไปด้วยก็จะส่งเงินไปเป็นค่าเลี้ยงดูทุกเดือน
วันนี้ (14 ม.ค. 58) ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ นางสุวิมล ศรีหะไตร ภริยาผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ ได้นำสุนัขจรจัดที่มีชาวบ้านนำไปทิ้งไว้บนเขากระโดงที่มีอาการป่วย พิการ เป็นโรคเรื้อน ไปรักษาจนหายแล้วนำไปเลี้ยงไว้ด้วยความเมตตา สงสาร ที่บริเวณด้านหลังจวนผู้ว่าราชการจังหวัดรวมกว่า 30 ตัว โดยทุกวันจะให้อาหาร ทำความสะอาดอาบน้ำให้ ดูแลสุขลักษณะพื้นที่เลี้ยงด้วยตนเอง
นางสุวิมล ศรีหะไตร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ในครั้งแรกที่ย้ายตามผู้ว่าฯ มาได้ขึ้นไปไหว้พระบนเขากระโดงเห็นสุนัขจำนวนมาก สภาพผอมเหลือแต่กระดูก มีหลายตัวป่วยและเป็นโรคเรื้อน แต่มีลักษณะหวาดกลัวผู้คนและบางตัวก็ดุร้ายเกรงว่าจะทำร้ายนักท่องเที่ยว เห็นแล้วสงสารมาก
หลังจากนั้นก็หาโอกาสขึ้นไปไหว้พระ และทุกครั้งที่ไปก็จะนำอาหารขึ้นไปเลี้ยงสุนัข จนเกิดความคุ้นเคย ไว้ใจ ตัวไหนยอมให้จับก็จะทายารักษาโรคเรื้อนให้ ส่วนตัวเมียก็จะจับไปทำหมันโดยสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด แล้วก็นำมาเลี้ยงไว้ที่จวนและหาบ้านให้อยู่ ขณะนี้สามารถจับมาได้ 32 ตัว ยังเหลืออีกหลายตัวไม่ยอมให้จับ ซึ่งกำลังพยายามทำความคุ้นเคยโดยนำอาหารไปให้กิน
นางสุวิมลกล่าวต่ออีกว่า โดยส่วนตัวเป็นคนรักสัตว์มาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ตนและน้องชายได้นำสัตว์ เช่น สุนัข แมว ห่าน กระรอก และนกไปเลี้ยงในบ้านและคนที่บ้านก็ไม่ได้บ่นว่าอะไร ต่อมาเมื่อแต่งงานกับนายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ในขณะนั้นดำรงตำแหน่งปลัดอำเภอ ซึ่งทราบดีว่าเป็นข้าราชการต้องมีการโยกย้ายบ่อย จึงยังทำให้ไม่สะดวกในการดูแล
แต่ก็มักจะซื้ออาหารไปให้สุนัขจรจัดตามถนนกินอยู่เป็นประจำเรื่อยมา ต่อมามีโอกาสย้ายไปอยู่บ้านที่กรุงเทพฯ ลูกชายก็ได้นำสุนัขไปเลี้ยงอีกครั้ง หลังจากนั้นเวลาย้ายไปไหนก็ต้องก็นำไปด้วย เพราะความผูกพันกลัวไม่มีคนเลี้ยงดู
จนกระทั่งย้ายไปอยู่ที่จังหวัดตรัง ซึ่งขณะนั้นผู้ว่าฯ ดำรงตำแหน่งนายอำเภอ ได้นำสุนัขจรจัดที่ป่วยไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่งในจังหวัดตรัง ได้เจอพี่คนหนึ่ง ซึ่งนำสุนัขจรจัดไปรักษาเช่นกัน เมื่อได้คุยกันก็สื่อกันได้ว่าเป็นคนมีเมตตาต่อสัตว์ จนกระทั่งสนิทสนมกัน จึงได้นัดแนะกันออกตระเวนนำสุนัขจรจัดที่ป่วย สุนัขพิการไปรักษา ที่ผ่านมาดูแลสุนัขและแมวมาแล้วหลายจังหวัด
เช่น จังหวัดตรัง พัทลุง นนทบุรี และจังหวัดบุรีรัมย์ รวมกว่า 200 ตัว ใช้เงินส่วนตัวทั้งหมด ตัวไหนที่ไม่สามารถขนย้ายมาที่จังหวัดบุรีรัมย์ได้ก็จะส่งเงินไปเป็นค่าอาหารทุกเดือน ซึ่ง “เป็นภาระที่ยินดี และเต็มใจที่จะทำ”
นอกจากนั้นแล้วยังบอกอีกด้วยว่า ได้อานิสงส์ดีๆ จากการเลี้ยงสัตว์หลายอย่าง เช่น เคยถูกจี้ แต่มีคนมาช่วยทัน เคยประสบอุบัติเหตุก็มีคนมาช่วย และมีสิ่งที่ดีๆ เข้ามาในชีวิตตลอด
อยากฝากถึงผู้ที่เลี้ยงสัตว์ทุกชนิดหรือกำลังคิดจะเลี้ยงช่วยกรุณาเลี้ยงจนกระทั่งวาระสุดท้ายของเขา อย่านำเขาไปทิ้งเพราะเขารักและคิดถึงเจ้าของตลอดเวลา และพบเห็นสุนัขหรือแมวอย่าไปทำร้ายเพราะเป็นการกระตุ้นให้สัตว์เหล่านั้นดุร้าย
