ศูนย์ข่าวศรีราชา - ศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง แถลงข่าวการจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ มูลค่า 50 ล้านบาท หลังฝ่ายสืบสวนและปราบปรามจับได้ระหว่างเดือนตุลาคม 57 ถึงมกราคม 58 จำนวน 33 รายการ
วันนี้ (13 ม.ค.) ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเทียบเรือ C1, C2 นายสัมพันธ์ จารุรัตนานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง แถลงข่าวการจับกุมสินค้าหลีกเลี่ยงอากร ข้อห้าม ข้อกำกัด สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เช่น สินค้าประเภทกระเป๋า รองเท้า ผ้าขนหนู รวมมูลค่าของกลางที่การสูญเสียทางเศรษฐกิจทั้งสิ้น 50 ล้านบาท
นายสัมพันธ์ จารุรัตนานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง กล่าวว่า ตามที่กรมศุลกากร ได้มุ่งเน้นนโยบายสำคัญในกานเร่งรัดปราบปรามสินค้าลักลอบ หลีกเลี่ยงอากร ข้อห้าม ข้อกำกัดสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และสินค้าที่แสดงกำเนิดเป็นเท็จ เพื่อความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี ปกป้องสังคม และสิ่งแวดล้อม
โดย ดร.สมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร ได้สั่งการให้มีการเข้มงวดเป็นพิเศษในการสกัดกั้นป้องกันและปราบปรามขบวนการลักลอบนำสินค้าที่ยังไม่ได้เสียภาษีศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร รวมทั้งการลักลอบนำสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักรโดยมิได้ผ่านการอนุมัติอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ศุลกากรฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ส่วนควบคุมทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง และเจ้าหน้าที่ศุลกากรฝ่ายสืบสวนปราบปรามที่ 3 ส่วนสืบสวนปราบปราม 1 สำนักสืบสวนและปราบปราม นำโดยนายวิจักษณ์ อภิรักษ์นันท์ชัย ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม ได้ดำเนินการด้านการสืบสวนปราบปรามในพื้นที่ความรับผิดชอบ พบการกระทำผิดกฎหมายศุลกากร ระหว่างเดือนตุลาคม 2557 ถึงวันที่ 12 มกราคม 2558 ทั้งสิ้น 33 รายการ อากร รวมค่ารับอากรทุกประเภททั้งหมด 12.73 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนรายจับกุมดังกล่าวเป็นสินค้าที่มีความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 และมาตรา 31 อนุ 1, อนุ 4 พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 จำนวน 5 ราย เป็นสินค้าประเภทกระเป๋า รองเท้า ผ้าขนหนู
นายสัมพันธ์ กล่าวอีกว่า จากการที่กรมศุลกากรได้เข้มงวดในเรื่องของสินค้าต้องห้ามต้องจำกัด ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่มาจากทางเรือ สนามบิน รวมไปถึงด่านชายแดนต่างๆ ซึ่งในการดำเนินมาตรการตรวจสินค้าอย่างเข้มงวด จึงทำให้สินค้าที่นำเข้ามาทางเรือ สนามบิน และด่านชายแดนต่างๆ ยากที่จะทำการซุกซ่อน หรือหลีกเลี่ยงเข้ามาได้อีกต่อไป
แต่อย่างไรก็ตาม สินค้าต้องห้ามต้องจำกัด และสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เป็นสินค้าที่มีความต้องการของตลาดสูง จึงมีความพยายามที่จะนำเข้าตามเขตชายแดน
โดยการลักลอบนำเข้ามาในรูปแบบกองทัพมดแล้วรวมหมอนลำเลียงสินค้าด้วยรถกระบะ รถบรรทุกสิบล้อ และรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ โดยซุกซ่อนสินค้าผิดกฎหมายไว้ภายใน โดยนำสินค้าที่ถูกกฎหมายจัดวางไว้ด้านหน้าเพื่อปิดบัง อำพราง และป้องกันการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐของหน่วยงานต่างๆ
ซึ่งกรณีนี้ กรมศุลกากรได้มอบนโยบายให้หน่วยงานในพื้นที่ประสานงานกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น หน่วยงานของความมั่นคง ทหาร ตำรวจในพื้นที่เพื่อร่วมปฏิบัติงานการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดดังกล่าว เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย ตามนโยบายของรัฐบาลด้วยแล้ว