น่าน - ตำรวจเมืองน่านถึงกับผงะ หลังบุกค้นห้องพักในแมนชั่น และโรงแรมกลางเมือง เจอโจ๋วัย 14-22 ปีทั้งชาย-หญิงมั่วสุมเต็มห้อง ทิ้งชุดนักเรียน นักศึกษา พร้อมเหล้า ยา อุปกรณ์เสพยาบ้าเกลื่อน พอจับตรวจฉี่เจอปัสสาวะสีม่วง 8 รายซ้อน
วันนี้ (13 ม.ค.) พ.ต.ต.ธนกร ธรรมลังกา สว.สส.สภ.เมืองน่าน พร้อมด้วย ร.ต.ท.นฤมิตร สุขแสง รอง สว.สส นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองน่าน เข้าทำการปิดล้อมห้องพักเบอร์ 201 โรงแรมเพิ่มพูนแมนชั่น และห้องพักเบอร์ 5 โรงแรมเฮือนน่าน ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน
หลังมีผู้ปกครองของเยาวชนหญิง อายุ 14 ปี (ขอสงวนชื่อ-นามสกุล) เข้าแจ้งความขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามตัวลูกสาว ซึ่งหนีหายออกจากบ้านและไม่ไปโรงเรียนมาเป็นเวลา 2 วัน ทราบว่าได้หนีออกมาอยู่กับกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งเปิดโรงแรมมั่วสุมดื่มสุรา เสพยาเสพติด เกรงว่าลูกสาวจะได้รับอันตราย
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าตรวจสอบภายในห้องดังกล่าวถึงกับผงะ เมื่อพบเยาวชนชาย-หญิงกำลังมั่วสุมรวมตัวอยู่ในห้องพักทั้ง 2 ห้อง โดยแต่ละคนมีอายุเพียง 14-22 ปีเท่านั้น โดยมีคนอายุมากสุดคือ 36 ปีเพียง 1 คน และยังพบชุดนักเรียน นักศึกษา ขวดสุรา อุปกรณ์การเสพยาบ้า และยาบ้าจำนวน 1 เม็ดด้วย
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวทั้งหมดดำเนินการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด พบมีปัสสาวะเป็นสีม่วง 8 ราย ได้แก่ นายสุรเชษฐ์ อำประสิทธิ์ อายุ 36 ปี, นายโชคชัย เทียมทะนงค์ อายุ 22 ปี, น.ส.ทัศพร ลือตัน อายุ 22 ปี, นายนพรัตน์ ลือตัน อายุ 19 ปี, นายสมควร บุญชุม อายุ 31 ปี, นายรุ่งโรจน์ อาษากิจ อายุ 19 ปี, เยาวชนหญิง อายุ 18 ปี และอายุ 16 ปี จึงควบคุมตัวไปสอบสวน
น.ส.บี (นามสมมติ) เยาวชนหญิงอายุ 16 ปี ให้การว่า เพื่อนทั้งหมดส่วนใหญ่เป็นเด็กมีปัญหา หนีโรงเรียน หนีออกจากบ้าน บางคนก็ทำงานค้าประเวณี พอได้เงินมาก็จะมารวมกันเปิดห้องพักเพื่อพักผ่อน บางครั้งก็จะมีรุ่นพี่นำยาบ้ามาให้เสพ ซึ่งทุกคนก็เสพยาบ้ากันทั้งหมด ก่อนจะมาถูกตำรวจจับกุมได้ดังกล่าว
ร.ต.ท.นฤมิตร สุขแสง รอง สว.สส.สภ.เมืองน่าน เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งส่งตัววัยรุ่นทั้งหมดไปทำการบำบัดเรื่องยาเสพติด พร้อมทั้งตรวจสอบประวัติแต่ละคนเพื่อติดต่อผู้ปกครองมารับตัว ซึ่งทุกคนจะถูกทำประวัติไว้ หากพบว่ามีการกระทำผิดซ้ำก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเด็ดขาด รวมทั้งเอาผิดเจ้าของโรงแรมด้วย
จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ตำรวจเชื่อว่ายังมีเยาวชนอีกหลายคนในเมืองน่านหลงเดินทางผิด หนีออกจากบ้าน เข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย กลายเป็นปัญหาสังคม ต้องเร่งหามาตรการป้องกันต่อไป