หนองคาย - จับสาวอุดรฯ พร้อมยาบ้าในกระป๋องแป้งเกือบ 600 เม็ด สารภาพหาเงินเลี้ยงลูก ขณะสามีถูกกักเป็นตัวประกันใน สปป.ลาว
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (9 ม.ค.) ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จ.หนองคาย นายอัสนี เรืองบุญ นายด่านศุลกากรหนองคาย ร.ต.อลงกรณ์ กล้าหาญ ผบ.หมวด กองกำลังรักษาความสงบประจำจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสนธิกำลังป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดหนองคาย ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม น.ส.เจียรนัย ภูนาสอน อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 259 หมู่ 11 ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมยาบ้าที่ซุกซ่อนมาในกระป๋องแป้ง 586 เม็ด
สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ประจำด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ปฏิบัติงานตามปกติ น.ส.เจียรนัย ได้ลงจากรถเพื่อผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการศุลกากรด้วยท่าทางมีพิรุธ จึงได้เรียกตัวขอตรวจค้นพบยาบ้าบรรจุในถุงพลาสติกสีฟ้า พันทับด้วยเทปกาวสีดำอีกชั้นหนึ่งซุกซ่อนอยู่ในกระป๋องแป้ง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการควบคุมตัวไว้
สอบสวนเบื้องต้น น.ส.เจียรนัย บอกว่า มีอาชีพเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน จ.หนองบัวลำภู มีลูก 2 คน ได้เลิกกับสามีเก่ามาได้สามีใหม่ คือ นายโสรัตน์ อ่อนเค อายุ 32 ปี เป็นชาว จ.หนองบัวลำภู มีอาชีพทำไร่อ้อย และรับจ้างใช้แรงงานในไร่อ้อย ซึ่งตนและสามีติดยาบ้า ช่วงนี้ไม่มีเงินที่จะใช้จ่ายในครอบครัว และใช้ซื้อยาบ้า จึงได้คิดจะซื้อยาบ้ามาขายให้แก่กลุ่มผู้ใช้แรงงานในไร่อ้อยที่ติดยาบ้าเหมือนกัน
จึงได้ข้ามไปติดต่อเพื่อซื้อยาบ้ากับ นางบุนล้ำ ไม่ทราบนามสกุล ชาวลาวที่รู้จักกับเพื่อนของสามี ซึ่งได้ข้ามไปเพื่อขอซื้อยาบ้าแล้วมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยขอนำยาบ้ามาขายก่อนแล้วจะโอนเงินให้หลังจากที่ขายได้ แต่นางบุนล้ำ ไม่ยอม เมื่อวานนี้ (8 ม.ค.) ได้ข้ามไปหานางบุนล้ำ อีกครั้ง เพื่อขอยาบ้าไปขายก่อน นางบุนล้ำ ยอมให้ยาบ้ามาขายแต่ต้องให้ใครคนใดคนหนึ่งเป็นตัวประกัน
ตนจึงอาสานำยามาขายเอง ส่วนสามีก็ถูกกักเป็นตัวประกันอยู่ใน สปป.ลาว เมื่อขายได้ให้โอนเงินเข้าบัญชีนางบุนล้ำ 60,000 บาท สามีจึงจะถูกปล่อยตัว แต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเสียก่อน เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวพร้อมของกลางให้แก่พนักงานสอบสวน สภ.เมือง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมทั้งจะได้ประสานกับสถานทูตไทยประจำ สปป.ลาว ให้ความช่วยเหลือนายโสรัตน์ ต่อไป