ศูนย์ข่าวศรีราชา-ชาวบ้านร้องสื่อฯ หลังเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ นำแผงเหล็กขาวแดงแสดงว่าห้ามจอดมากั้นปิดหน้าร้านยาวเกือบ 20 เมตร สร้างความเดือดร้อนต่อครอบครัว และลูกค้าที่มาซื้อสินค้าภายในร้านของตนเองเป็นอย่างมาก โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่าเป็นทางโค้ง ทั้งๆ ที่ถนนเป็นทางตรง เกรงว่าจะถูกกลั่นแกล้ง
ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายบรรเดช ผลพูน เจ้าของร้านพูนสุข (ปิ่นทอง) เปิดเป็นร้านขายส่ง-ขายปลีกสินค้าหลายชนิด ตั้งอยู่บริเวณถนนสายท่อน้ำประปาเก่า หมู่ 10 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ห่างจากสำนักงานเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ ประมาณ 500 เมตร ว่าตนเองและครอบครัวได้รับความเดือดร้อนจากเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์
ทั้งนี้ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ของเทศบาลฯ นำที่กั้นขอบทางเหล็กทาสีขาวแดงมาปิดกั้นหน้าร้านยาวประมาณ 20 เมตร ซึ่งปิดบังหน้าร้านของตนเต็มๆ โดยให้เหตุผลว่าบริเวณดังกล่าวเป็นทางโค้ง และการจราจรคับคั่ง เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายจึงนำแผงกันทางเหล็กมาติดตั้งดังกล่าว ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงบริเวณนั้นเป็นทางตรง ถ้าเป็นทางโค้งก็ไม่น่าที่จะมาปิดกั้นด้านนี้ ควรไปตั้งบริเวณที่รับโค้งมากกว่า ตนคิดว่าอาจจะโดนเจ้าหน้าที่กลั่นแกล้ง จึงต้องมาร้องเรียนดังกล่าว
การติดตั้งแผงเหล็กดังกล่าวนั้นทางเจ้าหน้าที่มาติดตั้งในพฤศจิกายน พ.ศ.2557 ซึ่งตนก็ไม่ได้คัดค้าน หรือต่อต้าน แต่อย่างไรก็ได้แต่ทำมาหากินต่อไปเรื่อยๆ แต่เพียงแปลกใจว่าทำไมจึงมาติดบริเวณหน้าร้านของตนเพียงจุดเดียวตลอดเส้นทางดังกล่าว ทั้งที่ไม่ใช่ทางโค้ง หรือมีการจราจรคับคั่งแต่อย่างใด
นายบรรเดช กล่าวต่อไปว่า ปัญหาดังกล่าวตนเริ่มได้รับความเดือดร้อนมากเพราะการเข้าออกบ้านเป็นไปด้วยความยากลำบาก ส่วนลูกค้าที่มาซื้อของ หรือรถมาส่งสินค้าก็เป็นไปด้วยความลำบากเช่นกัน และที่ผ่านมา ได้เข้าร้องเรียนที่อำเภอศรีราชา แต่ก็เงียบหายไป และล่าสุดก็พบว่า มีคนนำเรื่องดังกล่าวไปเผยแพร่ในโลกโซเชียล ในเว็บดัง และมีคนมาคอมเมนต์ในเรื่องดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ซึ่งล่าสุด ก็ได้มีสื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่ คสช. เข้ามาสอบถามถึงปัญหาดังกล่าวอีกด้วย
“ซึ่งตนต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือหน่วยงานในระดับสูงเข้ามาตรวจสอบกรณีดังกล่าวอีกครั้งว่าสมควรติดตั้งแผงเหล็กดังกล่าวหรือไม่ หากว่าเหมาะสมก็พร้อมปฏิบัติตาม แต่หากไม่เหมาะสมก็ขอให้ทางเทศบาลฯ ช่วยดำเนินการรื้อแผงเหล็กดังกล่าวออกไป เพราะขณะนี้ถือว่าเป็นการกำจัดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน” นายบรรเดช กล่าว