เชียงใหม่ - ยายวัย 62 ปีขับเก๋งฝ่าไฟแดงกลางเมืองเชียงใหม่ พุ่งชนจักรยานยนต์อดีตนายกเล็กช้างเผือก วัย 81 ปีกระเด็นไกล 5 เมตรบาดเจ็บสาหัส ขณะที่พลทหารขี่ จยย.ตามหลังมาหักหลบไม่พ้นชนเก๋งซ้ำอีก 1 คัน ขณะที่ 7 วันอันตรายเชียงใหม่มีตายสังเวยสูงสุดถึง 18 ศพ
วันนี้ (6 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋ง ทะเบียน กบ 1399 เชียงใหม่ มีนางภานี โสตถิรัตน์ อายุ 62 ปี เป็นคนขับพุ่งชนรถจักรยานยนต์ ทะเบียน งธต 370 เชียงใหม่ ทำให้นายจันทร์แก้ว สิทธิกุล อายุ 81 ปี อดีตนายกเทศมนตรีตำบล (ทต.) ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ คนขี่รถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บสาหัสคาสี่แยกไฟแดงข่วงสิงห์ กลางเมืองเชียงใหม่ ก่อนที่รถจักรยานยนต์ของพลทหาร พงพัฒน์ จันทร์เอื้อม ค่ายรบพิเศษที่ 5 ที่ขี่ตามหลังมาพุ่งชนรถยนต์เก๋งได้รับความเสียหายอีก 1 คัน
สอบสวนพลทหาร พงพัฒน์ ทราบว่า ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจากทางมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ตามหลังรถจักรยานยนต์ของนายจันทร์แก้ว ผู้บาดเจ็บ มุ่งหน้าไปทาง อ.แม่ริม จู่ๆ ก็มีรถยนต์เก๋งคันเกิดเหตุที่ขับมาจากทางเจ็ดยอด ฝ่าสัญญาณไฟแดงพุ่งชนรถจักรยานยนต์ของนายจันทร์แก้ว จนกระเด็นไปไกลกว่า 5 เมตร จนรถล้มกับขอบทาง ตนพยายามหักรถหลบแต่ก็ยังชนด้านข้างรถยนต์เก๋ง โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะสอบสวนหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ขณะที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 10 ระบุว่า ในช่วง 7 วันอันตราย เทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ที่ผ่านมา เชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นสูงสุดของประเทศถึง 133 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตมากถึง 18 ราย บาดเจ็บ 129 ราย ผู้เสียชีวิตเกือบทั้งหมดเป็นคนในพื้นที่ ส่วนใหญ่เกิดจากรถจักรยานยนต์ ไม่มีคู่กรณี หรือคู่กรณีเป็นเสาไฟฟ้า สาเหตุหลักเพราะเมาแล้วขับ ไม่สวมหมวกนิรภัย และขับรถเร็ว
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้จับกุมฝ่าฝืนวินัยจราจรดำเนินคดีมากกว่า 2 หมื่นราย ส่วนใหญ่เป็นรถจักรยานยนต์ ไม่สวมหมวกนิรภัยเกือบ 1 หมื่นราย ไม่มีใบขับขี่กว่า 6 พันราย และเมาแล้วขับ 2,301 ราย โทรศัพท์ขณะขับขี่เกือบ 300 ราย ขับรถเร็วเกินกำหนดกว่า 800 ราย รถจักรยานยนต์ไม่ปลอดภัย หรือดัดแปลงสภาพ กว่า 900 ราย แซงในที่คับขันกว่า 173 ราย ขับรถย้อนศรเกือบ 300 ราย และไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 1,784 ราย
โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เตรียมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการเตรียมป้องกันในช่วงเทศกาลสงกรานต์ต่อไป