เลย - หลังนักท่องเที่ยวแห่สัมผัสบรรยากาศไอหนาวสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติอุทยานแห่งชาติภูเรือ กลับทิ้งขยะร่วม 15,000 ตัน ด้านหัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูเรือไอเดียล้ำ เล็งจัดการขยะสร้างมูลค่าเพิ่ม นำรายได้ซื้อคืนกล้วยไม้หายากคืนอุทยานฯ หลังถูกลักลอบนำออกนอกอุทยานฯ
หลังเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่จังหวัดเลยได้รับการโปรโมตให้เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยว “เมืองต้องห้าม...พลาด” ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศเดินทางเข้ามาสัมผัสไอหนาว และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันโดดเด่นของจังหวัดเลยในหลายๆ แห่ง แต่หลังจากนักท่องเที่ยวเดินทางกลับไปแล้วกลับทิ้งสิ่งปฏิกูลตามสถานที่ท่องเที่ยว โดยเฉพาะที่อุทยานแห่งชาติภูเรือที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากเป็นพิเศษ
นายรณภพ คัชมาตย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูเรือ เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมอุทยานแห่งชาติภูเรือ ประมาณ 50,000 คน มีขยะของเสียหลังการท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 13,000-15,000 กิโลกรัม ในช่วงระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2557-2 มกราคม 2558 หากรวมประมาณทั้งปีจะมีขยะที่เกิดจาการท่องเที่ยวประมาณกว่า 30,000 กิโลกรัม โดยอุทยานแห่งชาติภูเรือมีภาระการจัดการคัดแยกขยะที่ย่อยสลายได้เองและขยะที่ไม่ย่อยสลายออกจากกัน
ทั้งนี้ ในส่วนขยะที่ย่อยสลายเองนั้นใช้วิธีฝังกลบ ส่วนที่ไม่ย่อยสลายนำออกไปนอกอุทยานฯ เพื่อลดการเผา ส่วนขยะที่สามารถรีไซเคิลได้นำมาแยกเป็นกลุ่มๆ เช่นขวด พลาสติกนำไปจำหน่าย แล้วนำไปแลกซื้อข้าวสารอาหารแห้งเพื่อเข้าโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมกล้วยไม้ โดยนำเงินที่ได้ไปแลกกับกล้วยไม้ของชาวบ้านรอบแนวเขต หลังจากที่ชาวบ้านนำกล้วยไม้ออกไปนอกอุทยานฯ ให้กลับคืนมา
จากนั้นมาเพาะชำเป็นแม่พันธุ์ แล้วนำกลับคืนสู่ธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติภูเรือ โดยนำไปติดตั้งและปลูกคืนเพื่อปรับสมดุลระบบนิเวศในเขตอุทยานแห่งชาติภูเรือ ส่วนต้นไหนเป็นพันธุ์กล้วยไม้หายาก ทางอุทยานแห่งชาติภูเรือจะนำแม่พันธุ์เพื่อใช้ในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อและรอการนำกลับคืนสู่ธรรมชาติต่อไป