xs
xsm
sm
md
lg

การท่องเที่ยวบนเกาะตราดยังคึก มีทั้งเพิ่งไปและกลับจนการจราจรติดขัด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตราด - การท่องเที่ยวบนเกาะช้าง เกาะกูดและเกาะหมาก ของจังหวัดตราดยังคึกคัก โดยมีนักท่องเที่ยวที่ทยอยเดินทางไปและกลับอย่างต่อเนื่อง จนทำให้การจราจรก่อนถึงท่าเรือติดขัดหนัก

วันนี้ (2 ม.ค.58) ผู้สื่อข่าวได้ลงสำรวจบรรยากาศการเดินทางไปยังเกาะช้าง เกาะกูด และเกาะหมาก ของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติบริเวณท่าเทียบเรือต่างๆ ในจังหวัดตราด ทั้งบริเวณท่าเทียบเรืออ่าวธรรมชาติ และท่าเรือเซ็นเตอร์พอยท์ อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด พบว่าแม้ในวันนี้จะเป็นการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวของเทศกาลปีใหม่เป็นวันที่ 3 แต่นักท่องเที่ยวก็ยังคงหลั่งไหลเดินทางมายังท่าเรือทั้ง 2 แห่ง เพื่อเดินทางไปยังเกาะช้างเป็นจำนวนมากโดยมีรถยนต์จอดรอเดินทางกว่า 300 คัน

ส่วนที่ท่าเรือบ้านแหลมศอก อำเภอเมืองตราด มีนักท่องเที่ยวกว่า 400 คนเตรียมลงเรือโดยสารจำนวน 3 ล เดินทางไปยังเกาะกูดและเกาะหมาก

เช่นเดียวกับที่บริเวณท่าเรือบ้านด่านเก่า ตำบลเกาะช้าง อำเภอเกาะช้าง ที่ก็พบว่ามีรถยนต์ของนักท่องเที่ยว จอดรอเพื่อเดินทางกลับมากกว่า 1,000 คัน ทั้งนี้ ผู้ประกอบการเฟอร์รี่ ได้เพิ่มเที่ยวเรือโดยสาร กว่า 40 เปอร์เซ็นเพื่อให้สามารถระบายนักท่องเที่ยวได้ทัน

นางสาวดลพร สวัสดิสาร ผู้จัดการท่าเรือเซนต์เตอร์พอยท์เฟอร์รี่ กล่าวว่า ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา บริษัทฯ ต้องเพิ่มเที่ยวเรือวิ่งรับ-ส่งผู้โดยสารเป็น 38 เที่ยวต่อวัน เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งทยอยขนรถยนต์และนักท่องเที่ยวออกจากเกาะให้มากที่สุดด้วย โดยคาดว่าในวันนี้จะมีรถยนต์ขึ้นจากเกาะช้าง มากกว่า1,000 คัน

ขณะที่นางสาววาสนา อิริคสัน นักท่องเที่ยวจากจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า หลังจากรอลงเรือนานกว่า 2 ชั่วโมงก็ยังไม่สามารถเดินทางได้ เนื่องจากจำนวนรถยนต์ และนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเดินทางมายังเกาะช้างแล้ว และพบว่าจำนวนรถยนต์ไม่มากเท่าปัจจุบัน

ด้าน ร.ต.ต.ณรงค์ เหล่ามาลา รองสารวัตรจราจร สถานีตำรวจภูธรเกาะช้าง กล่าวขณะนี้มีรถยนต์สะสมอยู่บนเกาะช้างนับพันคัน แม้จะมีรถยนต์จำนวนมากทยอยออกจากเกาะช้างตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ ซึ่งจำนวนรถยนต์ที่รอเดินทางลงเรือกลับขึ้นฝั่งจำนวนมาก ทำให้นักท่องเที่ยวต้องเสียเวลานาน 1-2 ชั่วโมงในการระบายรถ อย่างไรตาม าดว่าช่วงวันเสาร์และอาทิตย์ที่จะถึงนี้ จำนวนรถยนต์คงไม่เหลือมากนัก


กำลังโหลดความคิดเห็น