กำแพงเพชร - ผู้กำกับ สภ.วชิรบารมี บึ่งรถกลับจากอวยพรปีใหม่ผู้บังคับบัญชา ชนคนถือกรงดักหนูข้ามถนนดับ เจ้าตัวเผยทางมืดเห็นคนวิ่งตัดหน้าแม้แต่เหยียบเบรกเบรกยังไม่ทัน นึกว่าชนคนอุ้มเด็ก พอหักรถหลบเจอต้นไม้ จนรถพลิกพังยับ
ร.ต.ท.ธนู ทับมั่น ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชนคนเดินข้ามถนนเสียชีวิต บริเวณถนนสายกำแพงเพชร-พิจิตร บริเวณหมู่ 19 ต.เทพนคร อ.เมืองกำแพงเพชร ค่ำวานนี้ (1 ม.ค.) จึงไปตรวจสอบ พร้อมด้วยอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิสว่างกำแพงเพชรธรรมสถาน
ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย สวมเสื้อแขนสั้นสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีน้ำตาลอ่อน ไม่พบเอกสารใดๆ ในตัว ทราบชื่อภายหลังคือ นางประมวล ศรีหาวัฒน์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ที่ 12 ต.เทพนคร อ.เมืองแพงเพชร พักอาศัยอยู่บ้านเช่าใกล้ๆ จุดเกิดเหตุ บริเวณข้างถนนใกล้ที่พบศพมีกรงดักหนู จำนวน 5 กรง ตกกระจัดกระจายอยู่
จากการตรวจสอบศพอยู่ห่างจากจุดที่ถูกรถชนประมาณ 10 เมตร ไม่มีร่องรอยการเบรกของรถแต่อย่างใด และพื้นที่ลุ่มข้างถนนฝั่งตรงข้ามห่างที่พบศพออกไปประมาณ 20 เมตร พบรถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน ฆฮ 5312 กรุงเทพมหานคร สภาพรถตะแคงอยู่ หลังคาห้องโดยสารยุบเสียหาย กระจกหน้าแตกทั้งหมด
สอบถาม พ.ต.อ.ชยินธร สุคนธร ผกก.สภ.วชิรบารมี จ.พิจิตร คนขับรถกระบะ กล่าวว่า ขับรถมาอวยพรปีใหม่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงที่พักอาศัยอยู่ในจังหวัดกำแพงเพชร และกำลังเร่งเดินทางกลับ สภ.วชิรบารมี เนื่องจากได้รับรายงานว่า มีการจับยาบ้าของกลาง 4,000 เม็ด ในพื้นที่รับผิดชอบ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุสภาพถนนมืด ผู้เสียชีวิตได้วิ่งตัดหน้ารถลักษณะคล้ายคนกำลังอุ้มอะไรอยู่ โดยที่ตนไม่ทันจะเบรกได้เลย รถได้ชนผู้เสียชีวิตอย่างจัง ตนตกใจคิดว่าชนคนอุ้มเด็กรีบหักหลบออกข้างทางไปเจอต้นไม้ใหญ่ต้องหักหลบอีกทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำลงข้างถนนพังยับ ตนคาดเข็มขัดนิรภัยจึงไม่เป็นไร ไม่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนรถยนต์คันดังกล่าวเป็นรถที่เช่ามาใช้ในราชการตำรวจ มีประกันชั้นหนึ่งตามสัญญา ซึ่งจะรับผิดชอบความเสียหายทั้งหมด รวมทั้งค่าเสียหายให้แก่ทายาทผู้เสียชีวิตด้วย
จากการสอบถาม น.ส.วิษารักษ์ กางแม อายุ 15 ปี บุตรสาวของนางประมวล ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า มารดาของตนมักจะนำกรงออกไปดักหนูตามพื้นที่ลุ่มข้างถนนฝั่งตรงข้ามบ้านเป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุคาดว่า นางประมวล ไปเก็บกรงดักหนูมาไว้ที่บ้านทำให้ถูกรถชนเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป