ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “หม่อมหลวง ปนัดดา” เปิดโครงการเครือข่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สานใจปรองดองสมานฉันท์ 4 จังหวัดภาคเหนือตอนบน เน้นย้ำทุกภาคส่วนรวมพลังสร้างความสามัคคี กระตุ้นจิตสำนึกคุณธรรม จริยธรรม นำประเทศชาติเดินหน้า
วันนี้ (23 ธ.ค.) ที่โรงแรมกรีนเลครีสอร์ท จังหวัดเชียงใหม่ หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดโครงการเครือข่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สานใจปรองดองสมานฉันท์
พร้อมรับมอบนโยบาย เรื่อง “แนวทางการสร้างความปรองดองสมานฉันท์และความสมานสามัคคี” ซึ่งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 10 ลำปาง จัดขึ้น โดยมีอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน และเครือข่ายภาคประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และแม่ฮ่องสอนเข้าร่วมจำนวนมาก
ทั้งนี้ โครงการที่จัดขึ้นในครั้งนี้เพื่อเสริมสร้างความปรองดอง ความสมานฉันท์ ในหมู่เครือข่ายการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และสร้างจิตสำนึกและความตระหนักในการเสียสละเพื่อช่วยเหลือประชาชนในชาติ ตลอดจนเพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังความสามัคคีของเครือข่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่ร่วมแรงร่วมใจกันแก้ไขปัญหา และเสริมสร้างความเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อลดความขัดแย้ง
โดยคาดหวังว่าจะทำให้เครือข่ายในพื้นที่เกิดความรู้ ความเข้าใจในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเกิดความรัก ความสามัคคี ไม่มีความขัดแย้งในการปฏิบัติงาน
ขณะที่หม่อมหลวง ปนัดดากล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยประสบปัญหามากมายที่ไม่สามารถแก้ไขหรือคลี่คลายสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้ ทั้งปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ปัญหาการเห็นประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม หรือแม้แต่ความขัดแย้งและการแตกแยกขาดความสามัคคีในหมู่ประชาชนแต่ละกลุ่มแต่ละฝ่าย ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากการขาดสติ จิตสำนึกคุณธรรม จริยธรรม การขาดความปรองดองสมานฉันท์และความสามัคคี
โดยรัฐบาลปัจจุบันได้เข้ามาเพื่อหาทางออกและวิธีการที่จะช่วยเหลือแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อให้ประเทศเกิดการพัฒนาขึ้นมาอีกครั้ง โดยสร้างกระบวนการสำคัญที่จะต้องทำให้เกิดบรรยากาศของความปรองดองและสมานฉันท์ขึ้นทั่วทั้งประเทศ ซึ่งจะต้องนำไปสู่ความสามัคคีของทุกภาคส่วน
โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของสันติวิธี คือความถูกต้อง ยุติธรรม และการยอมรับของทุกภาคส่วน ทุกกลุ่ม ทุกหมู่คณะ ซึ่งเครือข่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยนับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการที่จะขับเคลื่อนสนับสนุนการดำเนินการสร้างบรรยากาศดังกล่าว