บุรีรัมย์ - ชาวนาบุรีรัมย์ยังแห่เข้าคิวรับเงินช่วยเหลือไร่ละพันคึกคัก ขณะ ธ.ก.ส.มั่นใจจ่ายเสร็จเป็นของขวัญให้ชาวนาก่อนปีใหม่ แม้บางส่วนยังติดปัญหาด้านข้อมูล ชื่อ สกุล ไม่ถูกต้อง สมุดบัญชีหมดอายุไม่ดำเนินการต่อเนื่อง ทั้งเจ้าตัวที่นาไม่ได้อยู่ในพื้นที่ เลขบัตรประจำตัวไม่ถูกต้อง เผยทั้งจังหวัดจ่ายแล้วกว่า 117,700 ราย รวมเป็นเงินกว่า 1,408 ล้าน
วันนี้ (23 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีจาก 11 ตำบลในเขตพื้นที่ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาอิสาณ จำนวนมากยังแห่มาเข้าคิวรอรับเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 15 ไร่ ตามมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง
จากที่มีชาวนาอยู่ในความรับผิดชอบของสาขาที่มีสิทธิ์รับเงินอยู่กว่า 9,500 ราย ซึ่งที่ผ่านมาทาง ธ.ก.ส. สาขาอิสาณ ได้จ่ายเงินตามโครงการฯ ให้เกษตรกรไปแล้วกว่า 7,500 ราย เป็นเงินกว่า 93 ล้านบาท คิดเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด ทาง ธ.ก.ส.สาขาอิสาณยืนยันว่าจะดำเนินการจ่ายเงินให้ชาวนาเสร็จสิ้นได้ทั้งหมดก่อนสิ้นปี เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ชาวนาที่เป็นผู้มีรายได้น้อย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมายังพบปัญหาชาวนาที่ยังไม่สามารถรับเงินช่วยเหลือได้ เนื่องจากผิดพลาดทางด้านข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่เพาะปลูก ชื่อ สกุล ไม่ถูกต้อง ผู้รับประโยชน์เสียชีวิต สมุดบัญชีหมดอายุขาดการติดต่อ เจ้าตัวและที่นาไม่ได้อยู่ในพื้นที่ เลข 13 หลักในบัตรประจำตัวประชาชนไม่ถูกต้อง ในจำนวนนี้มีอยู่กว่า 100 รายเท่านั้น จากจำนวนชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินอยู่กว่า 2,000 ราย ซึ่งกรณีดังกล่าวทางธนาคารได้ประสานให้เจ้าตัว และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้เร่งเข้ามาติดต่อขอดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนแล้ว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ธ.ก.ส.ทั้ง 26 สาขา ทั้งจังหวัดบุรีรัมย์สามารถโอนเงินช่วยเหลือให้ชาวนาตามโครงการไปแล้วกว่า 117,700 ราย เป็นเงินกว่า 1,408 ล้านบาท จากเกษตรกรที่ลงทะเบียนขอรับเงินช่วยเหลือทั้งจังหวัดกว่า 150,400 ราย
ทางด้านนายชัชวาล ฉาไธสง ผู้จัดการ ธ.ก.ส. สาขาอิสาณ กล่าวว่า ขอให้ชาวนาที่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อมูลที่ยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือตามโครงการของรัฐบาล ได้เร่งเข้ามาติดต่อขอแก้ไขข้อมูลดังกล่าวให้ถูกต้อง เพื่อที่จะได้ขอรับเงินช่วยเหลือโดยเร็วด้วย แต่เชื่อว่าทาง ธ.ก.ส. สาขาอิสาณจะสามารถโอนเงินช่วยเหลือเข้าบัญชีชาวนาที่มีสิทธิ์รับประโยชน์ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ชาวนาได้ก่อนสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน
