บุรีรัมย์ - ประชาชน และนักท่องเที่ยวแห่กางเต็นท์สัมผัสอากาศหนาว และนอนดูดาว ในงาน “มหกรรมว่าวอีสาน นอนดูดาวชมว่าวกลางคืน” ที่บุรีรัมย์สุดคึกคัก พร้อมชมหมู่บ้านว่าวจำลองร่วมพิธีทำขวัญข้าวขอขมาพระแม่โพสพตามประเพณีความเชื่อ และชมการแข่งขันวิ่งว่าวหลากหลายชนิด
วันนี้ (21 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เปิดแล้วงาน “มหกรรมว่าวอีสาน นอนดูดาว ชมว่าวกลางคืน” ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยรามคำแหง อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ที่ทางอำเภอห้วยราช และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ร่วมกันจัดขึ้น เพื่ออนุรักษ์สืบสานประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น และส่งเสริมการท่องเที่ยว
โดยภายในงานได้มีการจัดหมู่บ้านว่าวจำลอง และวิถีชีวิตของชาวนาในอดีต จำนวน 9 หมู่บ้าน พร้อมทั้งมีการประกอบพิธีทำขวัญข้าว เพื่อเป็นการขอขมาพระแม่โพสพตามประเพณีความเชื่อของชาวนา ที่เคยทำสืบทอดต่อกันมาตั้งแต่สมัยปู่ ย่า ตา ยาย อีกทั้งยังได้ทำพิธีตัดกรรม สะเดาะเคราะห์ด้วย
นอกจากนั้น ยังมีการจัดแข่งขันวิ่งว่าวแอกโบราณ ว่าวแอกพัฒนา ว่าวแอกยักษ์ การแกว่งแอกมาตรฐาน และแกว่งแอกทั่วไป โดยนายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ หลังเป็นประธานเปิดงาน ได้ร่วมวิ่งว่าวกับหัวหน้าส่วน และกรรมการจัดงาน พื่อสร้างสีสันภายในงานด้วย
โดยในปีนี้ได้มีประชาชน และนักท่องเที่ยวทั้งใน และต่างจังหวัดจำนวนมากเดินทางมาเที่ยวชมงานอย่างคึกคัก
ทั้งนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมากางเต็นท์ตั้งแคมป์สัมผัสอากาศหนาว และนอนดูดาว พร้อมชมว่าวที่ล่องลอยติดลมบนอยู่บนท้องฟ้าตลอดทั้งคืน ซึ่งในปีนี้ยังได้มีการนำกล้องส่องดูดาวมาให้บริการนักท่องเที่ยวได้ส่องดูดาวท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็นมากถึง 12 ตัวด้วย
นายสุธี คำมาเมือง นายอำเภอห้วยราช กล่าวว่า การเล่นว่าวของชาวอีสานส่วนใหญ่จะเล่นในช่วงหลังฤดูกาลเก็บเกี่ยว หรือช่วงฤดูหนาวที่มีลมหนาว หรือลมบน ซึ่งการเล่นว่าวส่วนมากจะแฝงไว้กับจุดมุ่งหมายในเรื่องบวงสรวง เสี่ยงทายความอุดมสมบูรณ์ของพืชพันธ์ธัญญาหาร เชื่อกันว่าหากปีใดว่าวขึ้นสูงติดลมบนตลอดทั้งคืน จะพยากรณ์ว่าปีหน้าฟ้าฝนดี ข้าว ปลา อาหารอุดมสมบูรณ์
ส่วนชาวท้องถิ่นไทยเขมรเชื่อกันว่า การชักว่าวขึ้นให้ติดลมบน และเสียงของแอกที่ดังโหยหวน เป็นการสร้างกรรม เมื่อเลิกเล่นจึงนิยมตัดว่าวทิ้ง ถือว่าเป็นการตัดเวรตัดกรรมออกไป และสะเดาะเคราะห์โดยจะผูกข้าวปลาอาหารให้ล่องลอยไปกับตัวว่าวดังกล่าวด้วย