ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยา ถกปัญหาผู้ประกอบการร่มเตียงพัทยา ล่าสุด ใช้นโยบายผ่อนปรนให้ผู้ประกอบการที่ถูกปรับยึดพื้นที่ 16 ราย สามารถทำกินได้ต่อไป
วันนี้ (20 ธ.ค.) นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา เป็นประธานการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารจาก มทบ.14 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมพิจารณาการจัดระเบียบร่มเตียงชายหาดเมืองพัทยา โดยเฉพาะคำสั่งยกเลิกพื้นที่ทำกินของผู้ประกอบ จำนวน 18 ราย ที่ได้รับข้อมูลจากการตรวจสอบว่า มีการนำพื้นที่สาธารณะชายหาดไปขาย เซ้ง และปล่อยเช่า ซึ่งถือว่าขัดต่อระเบียบที่ภาครัฐกำหนดไว้ และได้มีการเรียกผู้ประกอบการที่มีปัญหาเข้าร่วมเจรจาเพื่อหาแนวทางการแก้ไขที่ชัดเจน
นายรณกิจ เผยว่า การจัดระเบียบถือว่าเป็นที่สิ่งจำเป็น เพื่อคงสภาพแหล่งท่องเที่ยวไว้ให้เกิดความสวยงาม และสมบูรณ์สูงสุด โดยมีการระบุข้อกำหนด และข้อห้ามเพื่อป้องกันปัญหา เช่น การห้ามซื้อขาย เซ้ง หรือปล่อยเช่าพื้นที่ทำกิน ซึ่งเป็นที่สาธารณะที่ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกัน และให้มีการถ่านโอนตกทอดกันแบบมรดกเท่านั้น
“ทั้งนี้ ในกรณีดังกล่าวจากการตรวจสอบพบว่า มีผู้ประกอบการ จำนวน 16 รายรวม 32 ล็อก ที่นำพื้นที่เหล่านี้ไปทำการนอกเหนือข้อกำหนด ทางคณะกรรมการจึงมีมติให้คืนพื้นที่แก่สังคม”
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการผ่อนปรน และบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น คณะกรรมการฯ ได้ลงความเห็นที่จะเรียกผู้ได้รับผลกระทบเข้าร่วมเจรจาเพื่อหาทางออกที่เป็นธรรม ซึ่งผลสรุปในครั้งนี้จะกำหนดให้ผู้ประกอบการทั้ง 16 ราย สามารถทำกินต่อไปได้ แต่จะมีการปรับลดพื้นที่ให้เหลือเพียง 1 ราย 1 ล็อกต่อพื้นที่ 1 หาดเท่านั้น ทั้งนี้ ก็จะทำให้ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ และถือเป็นการคืนความสุขแก่สังคมอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
วันนี้ (20 ธ.ค.) นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา เป็นประธานการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารจาก มทบ.14 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมพิจารณาการจัดระเบียบร่มเตียงชายหาดเมืองพัทยา โดยเฉพาะคำสั่งยกเลิกพื้นที่ทำกินของผู้ประกอบ จำนวน 18 ราย ที่ได้รับข้อมูลจากการตรวจสอบว่า มีการนำพื้นที่สาธารณะชายหาดไปขาย เซ้ง และปล่อยเช่า ซึ่งถือว่าขัดต่อระเบียบที่ภาครัฐกำหนดไว้ และได้มีการเรียกผู้ประกอบการที่มีปัญหาเข้าร่วมเจรจาเพื่อหาแนวทางการแก้ไขที่ชัดเจน
นายรณกิจ เผยว่า การจัดระเบียบถือว่าเป็นที่สิ่งจำเป็น เพื่อคงสภาพแหล่งท่องเที่ยวไว้ให้เกิดความสวยงาม และสมบูรณ์สูงสุด โดยมีการระบุข้อกำหนด และข้อห้ามเพื่อป้องกันปัญหา เช่น การห้ามซื้อขาย เซ้ง หรือปล่อยเช่าพื้นที่ทำกิน ซึ่งเป็นที่สาธารณะที่ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกัน และให้มีการถ่านโอนตกทอดกันแบบมรดกเท่านั้น
“ทั้งนี้ ในกรณีดังกล่าวจากการตรวจสอบพบว่า มีผู้ประกอบการ จำนวน 16 รายรวม 32 ล็อก ที่นำพื้นที่เหล่านี้ไปทำการนอกเหนือข้อกำหนด ทางคณะกรรมการจึงมีมติให้คืนพื้นที่แก่สังคม”
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการผ่อนปรน และบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น คณะกรรมการฯ ได้ลงความเห็นที่จะเรียกผู้ได้รับผลกระทบเข้าร่วมเจรจาเพื่อหาทางออกที่เป็นธรรม ซึ่งผลสรุปในครั้งนี้จะกำหนดให้ผู้ประกอบการทั้ง 16 ราย สามารถทำกินต่อไปได้ แต่จะมีการปรับลดพื้นที่ให้เหลือเพียง 1 ราย 1 ล็อกต่อพื้นที่ 1 หาดเท่านั้น ทั้งนี้ ก็จะทำให้ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ และถือเป็นการคืนความสุขแก่สังคมอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป