ศูนย์ข่าวศรีราชา - ประธานชุมชนหลังเนิน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี วอนสังคมให้ความเป็นธรรม เหตุที่ลงเสียงให้ผู้ป่วยโรคเอดส์ย้ายออกจากพื้นที่ เพราะส่งผลกระทบชาวบ้านเดือดร้อนจากสภาพความเป็นอยู่ และการทำกิน
นายวิเชียร เวฬุวัน ประธานชุมชนหลังเนิน หมู่ 3 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เปิดใจต่อผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่ถูกสังคมในโลกออนไลน์ทั่วไปกล่าวหาว่า ชาวบ้านในชุมชนหลังเนินมีจิตใจคับแคบ และไม่สงสารผู้ป่วยโรคเอดส์ที่ไร้ที่พึ่งพิง หลังร่วมกันโหวตลงมติให้มูลนิธิกระท่อมพระสิริ ซึ่งเป็นที่พำนักของผู้ป่วยโรคเอดส์กว่า 50 ชีวิต ต้องย้ายออกจากพื้นที่ไปในระยะเวลา 6 เดือน ว่า เรื่องนี้ต้องกราบขอโทษต่อทุกคนในสังคมด้วยต่อเรื่องที่เกิดขึ้น
โดยข้อเท็จจริงแล้วก็รู้สึกสงสาร และไม่มีเจตนาที่จะขับไล่ แต่ที่ทำไปก็เพราะมีฐานะเป็นผู้นำชุมชน ดังนั้น เมื่อชุมชนมีความเดือดร้อนก็ต้องเข้ามาดูแลตามหน้าที่ ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นคงเป็นเพราะที่ผ่านมา การเข้ามาอยู่ของมูลนิธิฯ เองก็ไม่เคยมีการประชาสัมพันธ์ สอบถาม หรือมาประชาคมสร้างความเข้าใจแก่ชาวบ้านมาก่อนแต่อย่างใด อยู่ๆ ก็เข้ามากันพื้นที่พร้อมปลูกสร้างที่พัก และขนผู้ป่วยเข้ามาอยู่แบบไม่ทันตั้งตัว
จึงทำให้ชาวบ้านเกิดความรู้สึกหวาดระแวง ซึ่งจริงๆ แล้วคงไม่ใช่เฉพาะเรื่องของโรคเอดส์เท่านั้น เพราะยังมีปัญหาเรื่องโรคติดต่ออื่นๆ อย่างเช่น วัณโรค เรื่องนี้จึงทำให้ชุมชนวิตกเพราะส่วนใหญ่ในชุมชนเองก็จะมีผู้สูงอายุ และเด็กอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ที่สำคัญเศรษฐกิจ และการทำกินของชาวบ้านก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยเฉพาะห้องเช่า อพาร์ตเมนต์ ที่ผู้เช่ายกเลิกการเข้าพักอย่างต่อเนื่อง
สำหรับปัญหานี้ชาวบ้านทุกคนเข้าใจถึงความเดือดร้อนของมูลนิธิ และก็เห็นใจ จึงเสนอการมีส่วนร่วมในการบริจาคเงิน สิ่งของ และกำลังคนในการขนย้ายเพื่อไปหาที่พำนักแห่งใหม่ ซึ่งทางเทศบาลเมืองหนองปรือ จะเข้ามาดำเนินการภายในระยะเวลา 6 เดือน แต่หากยังไม่แล้วเสร็จก็ต้องมาคุยกันถึงเหตุผลว่า ทำไมจึงเกิดความล่าช้า ซึ่งในความเป็นจริงแล้วสามารถพูดคุยกันได้ เพราะเป็นคนไทยเหมือนกัน ด้วยเหตุนี้ จึงอยากให้สังคมเข้าใจ และให้ความเป็นธรรมแก่ชุมชนเช่นกัน
นายวิเชียร เวฬุวัน ประธานชุมชนหลังเนิน หมู่ 3 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เปิดใจต่อผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่ถูกสังคมในโลกออนไลน์ทั่วไปกล่าวหาว่า ชาวบ้านในชุมชนหลังเนินมีจิตใจคับแคบ และไม่สงสารผู้ป่วยโรคเอดส์ที่ไร้ที่พึ่งพิง หลังร่วมกันโหวตลงมติให้มูลนิธิกระท่อมพระสิริ ซึ่งเป็นที่พำนักของผู้ป่วยโรคเอดส์กว่า 50 ชีวิต ต้องย้ายออกจากพื้นที่ไปในระยะเวลา 6 เดือน ว่า เรื่องนี้ต้องกราบขอโทษต่อทุกคนในสังคมด้วยต่อเรื่องที่เกิดขึ้น
โดยข้อเท็จจริงแล้วก็รู้สึกสงสาร และไม่มีเจตนาที่จะขับไล่ แต่ที่ทำไปก็เพราะมีฐานะเป็นผู้นำชุมชน ดังนั้น เมื่อชุมชนมีความเดือดร้อนก็ต้องเข้ามาดูแลตามหน้าที่ ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นคงเป็นเพราะที่ผ่านมา การเข้ามาอยู่ของมูลนิธิฯ เองก็ไม่เคยมีการประชาสัมพันธ์ สอบถาม หรือมาประชาคมสร้างความเข้าใจแก่ชาวบ้านมาก่อนแต่อย่างใด อยู่ๆ ก็เข้ามากันพื้นที่พร้อมปลูกสร้างที่พัก และขนผู้ป่วยเข้ามาอยู่แบบไม่ทันตั้งตัว
จึงทำให้ชาวบ้านเกิดความรู้สึกหวาดระแวง ซึ่งจริงๆ แล้วคงไม่ใช่เฉพาะเรื่องของโรคเอดส์เท่านั้น เพราะยังมีปัญหาเรื่องโรคติดต่ออื่นๆ อย่างเช่น วัณโรค เรื่องนี้จึงทำให้ชุมชนวิตกเพราะส่วนใหญ่ในชุมชนเองก็จะมีผู้สูงอายุ และเด็กอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ที่สำคัญเศรษฐกิจ และการทำกินของชาวบ้านก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยเฉพาะห้องเช่า อพาร์ตเมนต์ ที่ผู้เช่ายกเลิกการเข้าพักอย่างต่อเนื่อง
สำหรับปัญหานี้ชาวบ้านทุกคนเข้าใจถึงความเดือดร้อนของมูลนิธิ และก็เห็นใจ จึงเสนอการมีส่วนร่วมในการบริจาคเงิน สิ่งของ และกำลังคนในการขนย้ายเพื่อไปหาที่พำนักแห่งใหม่ ซึ่งทางเทศบาลเมืองหนองปรือ จะเข้ามาดำเนินการภายในระยะเวลา 6 เดือน แต่หากยังไม่แล้วเสร็จก็ต้องมาคุยกันถึงเหตุผลว่า ทำไมจึงเกิดความล่าช้า ซึ่งในความเป็นจริงแล้วสามารถพูดคุยกันได้ เพราะเป็นคนไทยเหมือนกัน ด้วยเหตุนี้ จึงอยากให้สังคมเข้าใจ และให้ความเป็นธรรมแก่ชุมชนเช่นกัน